@MushroomTravel
ทุกครั้งเวลาที่เราจะไปเที่ยวต่างประเทศ นอกจากการเตรียมเอกสารการเดินทาง เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะลืมไม่ได้ก็คือการแลกเงิน ซึ่งปกติเราก็จะคำนวณเงินที่เราจะใช้ก่อนที่จะแลก นอกเหนือจากค่าโรงแรม ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ และค่าตั๋วเครื่องบินที่เราจ่ายไปแล้วเรียบร้อย นั่นก็คือค่ารถ ค่ากิน ค่าช้อปปิ้ง รวมถึงค่าเผื่อเหลือเผื่อขาดอีกเล็กน้อยใช่ไหมคะ
แต่สำหรับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแม่ขาช้อป มันต้องมีบ้างแหละน่าที่บางครั้งของบางอย่างมันก็ทำให้เรารู้สึกหวั่นไหว จะตัดใจรึก็เสียดาย เพราะของที่ถูกใจใช่ว่าจะหาเจอกันง่ายๆ เสียเมื่อไหร่ ดีไม่ดีหากกลับมาซื้อที่เมืองไทยอาจแพงกว่าราคาที่เราเจออีกหลายเท่าตัว ถึงตอนนั้นจะมาเปลี่ยนใจทีหลังก็คงจะไม่ทันแล้ว ดังนั้นผู้ช่วยส่วนตัวจะที่จะจัดการปัญหานี้ให้เรา ไม่ใช่เพื่อนๆ หรือใครที่ไหนหรอกค่ะ นอกจากเจ้า “บัตรเครดิต” ที่มีติดกระเป๋านั่นเอง
How to: ใช้.. บัตรเครดิต ในต่างแดน รูดอย่างไรไม่เสียเซลฟ์
แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ!! การจะเป็นเจ้าแม่ขาช้อปอาจจะเป็นเรื่องง่าย แต่ไม่ใช่สำหรับพวกเราแน่นอนค่ะ เพราะเป้าหมายของเราก็คือการเป็นเจ้าแม่ขาช้อปที่ทั้งสวย รวย และฉลาดไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นก่อนจะรูดปรื๊ดๆ ใจเย็นๆ กันก่อนนะคะสาวๆ เรามาเรียนรู้วิธีการใช้บัตรเครดิตอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียเซลฟ์ในภายหลังจะดีกว่
ก่อนอื่นในกรณีที่คุณมีบัตรเครดิตหลายใบ ก่อนที่จะรูดเราควรมาศึกษาหาข้อมูลบัตรเครดิตของแต่ละธนาคารกันก่อนดีกว่าค่ะ โดยเราจะมาพิจารณาและเปรียบเทียบว่าบัตรเครดิตใบไหน ธนาคารไหนที่ใช้ในต่างประเทศแล้วมีโปรโมชั่นเด็ดสุด และมีเงื่อนไขที่โดนใจสุดๆ โดยเราจะดูจาก
ค่าธรรมเนียมสำหรับการรูดบัตรเครดิตในต่างประเทศ
ตามปกติทุกครั้งที่เรารูดบัตรเครดิตในต่างประเทศ ไม่ว่าจะประเทศไหนก็ตามแต่ การคิดอัตราแลกเปลี่ยนของบัตรนั้น ทางสถาบันการเงินนั้นๆ เขาจะทำการคิดค่าเงิน US Dollar เป็นหลักค่ะ จากนั้นจึงนำมาเทียบเป็นเงินสกุลท้องถิ่นในประเทศที่เราไปเที่ยว ก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมาเทียบเป็นเงินไทยอีกที (ช่างยุ่งยากซับซ้อนเสียนี่กระไร) โดยตรงนี้ก็จะมีค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงินค่ะ ซึ่งแต่ละแห่งก็มีอัตราที่แตกต่างกันไป ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือ แนะนำให้เลือกบัตรเครดิตที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเครดิตที่ต่างประเทศค่ะ (ในกรณีที่คุณมีบัตรซึ่งมีข้อเสนอนี้) นอกจากนั้นตรงนี้ก็จะมีค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน ซึ่งอันนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ โดยส่วนใหญ่ก็จะไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย ยกเว้นบัตรเครดิตเซ็นทรัล ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และไอซีบีซี ที่ไม่เกิน 2% ของยอดค่าใช้จ่ายค่ะ
สิทธิพิเศษสำหรับบัตรเครดิตประเภทต่างๆ
สำหรับสิทธิพิเศษอันนี้จะเป็นสิทธิ์ที่มาพร้อมกับบัตรค่ะ โดยเฉพาะบัตรเครดิตที่มีวงเงินสูงๆ เนี่ย ก็มักจะพ่วงสิทธิพิเศษต่างๆ มาเรียกร้องความสนใจและเอาอกเอาใจลูกค้าให้สมัครอยู่แล้ว อย่างเช่น ฟรีประกันการเดินทาง สามารถใช้ห้องพักวีไอพีที่สนามบินได้ หรือมีราคาพิเศษสำหรับโรงแรมในเครือให้ ดังนั้นช่วงเตรียมตัว ก็ลองศึกษาข้อมูลที่มาพร้อมกับบัตรหรือใบแจ้งหนี้ในแต่ละเดือนดู บางทีหลายๆ ข้อเสนออาจจะเพิ่มความสะดวกสบายให้เรา หรือช่วยเราประหยัดงบได้มากขึ้นก็เป็นได้ค่ะ
เพิ่มความปลอดภัยสำหรับการพกบัตรเครดิตไปใช้ยังต่างประเทศ
เรื่องโปรโมชั่นก็สำคัญ สิทธิพิเศษก็สำคัญ แต่สำคัญที่สุดคงไม่พ้นเรื่องความปลอดภัยค่ะ เพราะถ้าคุณไม่ใส่ใจตรงนี้ หากเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมา อาจต้องมานั่งน้ำตาตกในก็ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีบัตรประเภทวงเงินสูงๆ ควรต้องระวังเอาไว้อย่างที่สุด โดยปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะ
- แจ้งสถาบันการเงินบัตรเครดิตที่คุณจะใช้ก่อนการเดินทาง ก่อนจะเดินทาง ลองเสียเวลาโทรไปแจ้งสถาบันการเงินที่คุณถือบัตรสักนิดคงไม่เสียเวลามากมายหรอกค่ะ โดยแจ้งว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหน ประเทศอะไร และคุณจะพกบัตรเครดิตใบไหนไปใช้ด้วย เพียงแค่นี้ก็เรียบร้อย
- พกบัตรสำรองเผื่อฉุกเฉินไปอีกสักใบ แต่ไม่เกินนี้ จงจำไว้ว่ายิ่งมีเงินเยอะก็ยิ่งใช้เยอะ โดยเฉพาะการใช้บัตรเครดิตที่เราไม่เห็นตัวเงินยิ่งอันตรายหนักเลยค่ะ ดังนั้นจะใช้ใบไหนก็พกไปเท่านั้น แต่ไม่ควรจะเกิน 2 ใบ เผื่อเอาไว้ในกรณีฉุกเฉินนั่นเอง แต่ถ้าบัตรเครดิตของคุณไม่มีปัญหาเลยสักใบ ก็ทำเป็นลืมๆ ไปก็ได้ว่าคุณพกอีกใบมาเผื่อด้วย
- ตั้งสติให้พร้อม ตามให้ทันร้านค้าหัวใส บางครั้งที่คุณกำลังจะรูดบัตรเครดิตซื้อสินค้า อาจมีร้านค้าใจดีที่ขอเสนอคิดราคาสินค้าให้คุณในเรท US Dollar เพื่อที่คุณจะไม่ต้องมางงกับการเทียบค่าเงินไปมาจากค่าเงินท้องถิ่นมาเป็นเงินไทย ตรงนี้ขอแนะนำให้ปฏิเสธไปเลยค่ะ เพราะทุกครั้งที่เรารูดบัตรเครดิต ระบบการคิดเงินของบัตรมันจะจัดการให้เราโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่การที่ร้านค้าพูดข้อเสนอนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าหากเขาทำแบบนี้ก็จะได้ประโยชน์จากการแปลงอัตราเงินนั่นเองค่ะ และมันก็ทำให้พวกเขาได้กำไรมากขึ้นจากส่วนต่างของเงินนั่นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.skyscanner.co.th