พูดถึงการ เที่ยวฮ่องกง นอกจากการช้อปปิ้งอย่างสนุกแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรานึกถึงฮ่องกงรองลงมาก็คือ อาหารฮ่องกง นั่นเองค่ะ ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลายเมนู ส่วนใหญ่จะเป็นสตรีทฟู้ด และด้วยความอร่อยจึงทำให้หลายร้านได้รับเลือกให้เป็น ร้านมิชลินสตาร์ และได้รับการแนะนำใน มิชลินไกด์ ซึ่งมีอยู่มากมายทั่วเกาะฮ่องกง และวันนี้ มัชรูมทราเวล จะขอพาคุณไปลิ้มรสกับ 19 ร้านมิชลิน ฮ่องกง แสนอร่อยในราคาที่คุณเอื้อมถึง รับรองว่าถูกใจคนชอบกินแน่นอน!
ก่อนจะพาไปรู้จัก ร้านอาหารฮ่องกง มิชลิน อร่อยๆ พี่เห็ดขอเสริมข้อมูลให้เพื่อนๆ สักนิด เกี่ยวกับ “มิชลินไกด์” (Michelin Guide) ว่าเป็นคู่มือแนะนำร้านอาหารชื่อดังระดับโลก ที่คัดเลือกร้านอร่อยจากหลายประเทศ โดยเขาจะให้รางวัลหลักๆ อยู่ 2 แบบคือ
1. Michelin Stars (มิชลินสตาร์)
เป็นรางวัลใหญ่สุด แบ่งออกเป็น 3 ระดับ

หนึ่งดาว = อร่อยคุ้มค่า ควรค่าแก่การแวะชิม
สองดาว = รสชาติยอดเยี่ยม คุ้มค่าที่จะเดินทางออกนอกเส้นทางไปกิน
สามดาว = อร่อยแสงออกปาก ควรค่าแก่การบินไปกินโดยเฉพาะ
** โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ 5 ข้อ ได้แก่ คุณภาพของวัตถุดิบ, ความเชี่ยวชาญในเทคนิคการทำอาหาร, เอกลักษณ์เฉพาะของเชฟที่แสดงออกผ่านอาหาร, ความคุ้มค่าสมราคา และความสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
2. Bib Gourmand
รางวัลนี้ไม่ใช่ระดับดาว แต่ก็ถือว่าเป็นร้านอร่อย คุณภาพดี คุ้มราคา จ่ายไม่แพงก็อิ่มฟินได้

พูดง่ายๆ คือ ถ้าได้ดาว = ระดับตำนาน ส่วนถ้าได้ Bib Gourmand = ของอร่อยคุณภาพดี ราคามิตรภาพ นั่นเองจ้า
ทีนี้เรามาดูร้านอร่อยระดับมิชลินที่ฮ่องกง พี่เห็ดได้คัดมาให้ถึง 19 ร้าน บอกเลยว่าทั้งอร่อย คุณภาพดี และราคาเอื้อมถึงแน่นอน
1. Ho Hung Kee (Causeway Bay)

พูดถึงร้านบะหมี่เก่าแก่ในฮ่องกง จะพลาดร้าน Ho Hung Kee ไปไม่ได้เลย ร้านที่ได้มิชลิน 1 ดาวมาตั้งแต่ปี 2011 เปิดให้บริการครั้งแรกตั้งแต่ปี 1946 ขึ้นชื่อเรื่องบะหมี่เกี๊ยว เส้นเหนียวนุ่ม เกี๊ยวเนื้อแน่น มาพร้อมน้ำซุปหวานกลมกล่อม ล่าสุดมีเพิ่มเมนูติ่มซำ และอาหารกวางตุ้งเข้าไปด้วย อร่อยอิ่มสะใจ ราคาน่ารัก เรียกว่าคุ้มเลย
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 22.00 น.
ราคา : 250 – 500 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7jzJVRyWNztSmi6z6
2. Yat Lok (Central)

แค่อยู่หน้าร้าน น้ำลายก็ไหลแล้วกับ Yat Lok ร้านเป็ดย่างในตำนานที่ได้มิชลิน 1 ดาว เปิดมาตั้งแต่ปี 1957 เมนูที่พลาดไม่ได้คือ เป็ดย่างหนังกรอบมันวาว หมักด้วยสูตรลับเฉพาะ ที่ผ่านกรรมวิธีมากกว่า 20 ขั้นตอน ก่อนจะย่างด้วยเตาไฟถ่านจนหอมฉ่ำทานคู่กับบะหมี่ หรือข้าวร้อนๆ ก็เข้ากันดีสุดๆ นอกจากนี้ยังมีหมูแดง หมูกรอบ และไก่ซีอิ๊ว ที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน ส่วนราคาถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับร้านดาวทั่วไป แนะนำเลย
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 20.30 น.
ราคา : 500 – 1,000 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/oUDBgN1FTwcxt93o7
3. Kam’s Roast Goose

อีกหนึ่ง ร้านมิชลิน ฮ่องกง ที่ไม่อยากให้พลาดกับ Kam’s Roast Goose ร้านที่ได้มิชลิน 1 ดาว ขึ้นชื่อเรื่องเป็ดย่างมากว่า 70 ปีแล้ว ไม่ได้มีดีแค่เป็ดย่างหนังกรอบเนื้อนุ่มเท่านั้น แต่ยังมี เมนูแปลกน่าลองอย่าง ก๋วยเตี๋ยวคลุกน้ำมันเป็ด และ พุดดิ้งเลือดห่าน เนื้อนิ่มละลายในปาก ส่วนเมนูสไตล์กวางตุ้งที่เรียงรายอยู่หน้าร้านก็น่าลิ้มลองไม่แพ้กัน แต่ใดๆ ในร้านมีที่นั่งประมาณ 30 โต๊ะเท่านั้น อดใจรอคิวกันแป๊บๆ ก็ได้กินของอร่อยแล้วจ้า
เวลาเปิด-ปิด : 11.30 – 21.30 น.
ราคา : 500 – 2,000 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/g68McoRsjpqLk9gt5
4. Yè Shanghai (Tsim Sha Tsui)

ขอวาร์ปไปร้านสวยสุดหรูอย่าง Yè Shanghai ร้านมิชลิน 1 ดาว ชื่อดังในวงการอาหารเซี่ยงไฮ้ ที่อยู่ในลิสต์นักชิมมากว่าสองทศวรรษแล้ว เมนูที่ต้องลองคือ ไก่แช่เหล้า กุ้งแม่น้ำผัด และ หมูสามชั้นสไลซ์บางราดซอสกระเทียม เนื้อหมูบางนุ่มเด้ง รสเข้มข้นแต่ตัดเลี่ยนด้วยกลิ่นกระเทียมและซีอิ๊วอย่างลงตัว ไม่ว่าจะบรรยากาศร้านที่ได้กลิ่นอายเซี่ยงไฮ้ยุค 1930 ผสมผสานความโมเดิร์น กับเมนูน่าตาสวยๆ ส่วนรสชาติอาหารก็ต้องยกนิ้วให้ บอกเลยว่าคุ้มเกินคุ้มนะ
เวลาเปิด-ปิด : 11.30 – 23.00 น.
ราคา : 350 – 1,000 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/pEaZB7Gb3Tpn8Mja7
5. Chaat

เปลี่ยนแนวไปลองชิมอาหารอินเดียที่ได้มิชลิน 1 ดาวกันบ้างกับ Chaat ซึ่งชื่อร้านเป็นภาษาฮินดี แปลว่า “เลีย” ไม่ได้จะไม่สุภาพ แต่เพราะอาหารที่นี่อร่อยจนต้องเลียนิ้วต่างหาก เมนูมีตั้งแต่อาหารอินเดียสตรีทฟู้ดที่ถูกยกระดับ ไปจนถึงจานสุดสร้างสรรค์ที่ตีความจากสูตรดั้งเดิมอย่าง ไก่ย่างเตาแทนดูรีชิ้นฉ่ำ รสเครื่องเทศกำลังดี อีกทั้งที่นี่ยังเป็นครัวแบบเปิด ทำให้แขกได้เห็นเชฟลงมือปรุงอาหารแบบสดๆ เพิ่มความสนุกและสร้างบรรยากาศคึกคักระหว่างมื้อได้เป็นอย่างดี
เวลาเปิด-ปิด : 12.00-14.30 น. และ 17.30-22.30 น. (ปิดวันจันทร์)
ราคา : 300 – 1,000 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fJ1VcvKohb6WtBXy8
6. Loaf On

อาหารทะเลสดไม่มีใครเกินร้านนี้! Loaf On ร้านอาหารทะเลมิชลิน 1 ดาว โดดเด่นไม่เหมือนใคร วัตถุดิบสดใหม่ถูกปรุงด้วยสูตรดั้งเดิมแบบบ้านๆ เพื่อดึงความอร่อยของวัตถุดิบออกมาเต็มที่ เมนูเด็ดคือ กั้งม้าลาย (Zebra Mantis Shrimp) นึ่งบนเต้าหู้นมสด เนื้อเด้งแน่นสุดอูมามิ หรือจะลอง กั้งผัดพริกกระเทียม หรือ ปลานึ่งเกลือทะเล ก็อร่อยไม่แพ้กัน ที่สำคัญบางเมนูซีฟู้ดต้องสั่งล่วงหน้า ก่อนจองโต๊ะก็อย่าลืมสอบถามทางร้านก่อนนะคะ
เวลาเปิด-ปิด : 11.30 – 22.00 น.
ราคา : 1,000 – 2,500 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hS9Ff21asBuiDn686
7. Yardbird

ร้านมิชลิน ฮ่องกง 1 ดาว ที่สุดแสนจะฮอต คนแน่นตลอดเวลา ใครจะจองโต๊ะเตรียมใจต่อคิวไว้เลยกับ Yardbird ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มาแล้วต้องลองเมนู ยากิโทริ หรือ ไก่ย่างเสียบไม้ กว่า 20 แบบ ทำจากไก่สายพันธุ์ท้องถิ่น ความพีคคือใช้ทุกส่วนของไก่ตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้แต่ส่วนหายากอย่าง หัวใจห้องล่าง ก็มีให้ลอง นำมาย่างบนถ่านหอมๆ อีก เมนูที่ต้องโดนให้ได้ก็คือ มีตบอลกรอบ เสิร์ฟกับซอสทาเระและไข่แดง ปิดท้ายด้วยการจิบวิสกี้ญี่ปุ่น อิ่มอร่อยชุ่มคอได้อีก
เวลาเปิด-ปิด : 18.00 – 00.00 น. (ปิดวันจันทร์ และอาทิตย์)
ราคา : 500 – 1,000 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/EgBpwhPe9ZkPT5Kp6
8. Tim Ho Wan (Sham Shui Po)

ถ้าพูดถึงติ่มซำในฮ่องกง หนึ่งในลิสต์ที่ควรไปชิมต้องมีร้าน Tim Ho Wan ตำนานติ่มซำราคาดีที่เคยได้ดาวมิชลิน จนได้ชื่อว่าเป็น “มิชลินสตาร์ที่ถูกที่สุดในโลก” จนตอนนี้ได้รางวัลเป็น Bib Gourmand ก็ยังคงความอร่อยเสมอมา มีติ่มซำให้เลือกกว่า 20 เมนู ทำสดใหม่ชิ้นต่อชิ้น บางเมนูจะหมุนเวียนเปลี่ยนทุก 2 – 3 เดือน เพื่อไม่ให้ซ้ำจำเจ เมนูห้ามพลาดเลยคือ ฮะเก๋ากุ้ง ซาลาเปาไส้หมูแดง และ เต้าหู้นึ่งราดหอยเชลล์ ราคาย่อมเยา ดีต่อใจสุดๆ
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 22.00 น. / วันเสาร์ – อาทิตย์ 09.00 – 22.00 น.
ราคา : 150 – 400 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fsJmvy3Z3EMZTUrp9
9. Kwan Kee Clay Pot Rice (Queen’s Road West)

ป้ายแดงๆ หน้าร้านกับบรรยากาศเรียบง่ายแบบดั้งเดิม สะท้อนความเป็นฮ่องกงแท้ๆ กับ Kwan Kee Clay Pot Rice ร้านอาหารจีนกวางตุ้ง เมนูแนะนำที่ต้องลองคือ ข้าวหม้อดิน ที่ขายเฉพาะตอนเย็น เพราะต้องใช้เวลาปรุงนานนิดนึง เนื้อข้าวใช้สูตรผสม 3 สายพันธุ์ ทำให้เนื้อข้าวนุ่ม หอมเป็นเอกลักษณ์ ตรงก้นหม้อจะมีข้าวเกรียมกรอบหอมกลิ่นไหม้นิดๆ กำลังดี เข้ากันได้ดีกับปลาไหลขาวที่ปรุงมาอย่างดี การันตีความอร่อยด้วย Bib Gourmand
เวลาเปิด-ปิด : 17.30 – 22.00 น.
ราคา : 300 – 1,500 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/SLmtqLLW4hs8huVm7
10. Trusty Congee King (Wan Chai)

กินของแซ่บมาก็เยอะ แวะมากินโจ๊กร้อนๆ ซดให้คล่องคอกันบ้างที่ Trusty Congee King ร้านโจ๊กสไตล์ฮ่องกงที่ได้ Bib Gourmand เชียวนะ พอนั่งโต๊ะปุ๊บแนะนำให้สั่งเมนูยอดฮิตอย่าง โจ๊กตับหมูกับหอยเชลล์ เนื้อโจ๊กเนียนละเอียด กินคู่กันแล้วรสชาติเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ หรือจะลอง บะหมี่เกี๊ยว น้ำซุปหอมกลมกล่อมก็สุดฟิน เหมาะจะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยมื้อเช้าแบบฮ่องกงแท้ๆ
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 21.00 น.
ราคา : 120 – 300 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Sk3F2X3YJqkEJuxx6
11. Little Napoli

หลังจากย้ายมาเปิดที่ย่านหว่านไจ๋ (Wan Chai) ร้านพิซซ่าชื่อดัง Little Napoli ก็ดูใหญ่และฮอตมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังได้ Bib Gourmand โดยเชฟยังคงยึดตามสูตรดั้งเดิมจากบ้านเกิดที่เนเปิลส์ ใช้วัตถุดิบทุกอย่างนำเข้าจากอิตาลีแท้ๆ แน่นอนว่า ต้องลองพิซซ่า Margherita หรือ Vesuviana ที่อบในเตาหินอิตาลีอุณหภูมิกว่า 400 องศา จนได้แป้งขอบฟูกรอบหอม มีรอยไหม้นิดๆ ตรงขอบ กับตรงกลางนุ่มยืดเยิ้มชวนฟิน แนะนำให้มาแต่เช้าๆ จะได้อร่อยก่อนใครเพื่อน
เวลาเปิด-ปิด : 12.00 – 15.00 น. และ 18.00 – 22.00 น. (ปิดวันจันทร์)
ราคา : 500 – 1,000
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/rEXWAEms4WDNYpGo7
12. Ăn Chơi

มาที่ ร้านมิชลิน ฮ่องกง ที่แค่เห็นหน้าร้าน Ăn Chơi ก็รับรู้ได้ถึงความสดใสแล้ว ด้วยสีสันที่จัดจ้าน บริหารงานโดยคู่รักเชื้อสายจีน–เวียดนาม ถ่ายทอดบรรยากาศเหมือนนั่งกินอยู่ริมทางในฮานอยเป๊ะๆ ส่วนความอร่อยก็ไม่แพ้ใคร การันตีด้วย Bib Gourmand เมนูที่พลาดไม่ได้คือ บั๋นหมี่ (Bánh Mì) ที่มีหลายไส้ให้เลือก และ เฝอหลากหลายสไตล์ตามแต่ละภูมิภาค ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มสไตล์เวียดนามแท้ๆ อย่าง กาแฟใส่ไข่ หรือเบียร์เวียดนามก็เริ่ด
เวลาเปิด-ปิด : 12.00 – 22.00 น.
ราคา : 300 – 800 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/qTfVv2EZEuG1juQB7
13. Lucky Indonesia

ไม่ได้หากินกันง่ายๆ กับ Lucky Indonesia ร้านอาหารอินโดนีเซียเล็กๆ แต่เก๋าเกมในย่านนี้ เปิดมานานกว่า 30 ปีแล้ว แถมยังได้รางวัล Bib Gourmand อีกด้วย หลังรีโนเวทใหม่ บรรยากาศดูสดใสและทันสมัยขึ้น แต่รสชาติอาหารยังคงเข้มข้นสไตล์ชวากลางเหมือนเดิม เมนูห้ามพลาดคือ สะเต๊ะ กลิ่นหอมควันถ่านยั่วใจ มีทั้งเนื้อแกะ หมู และไก่ให้เลือก หรือจะลองข้าวเหนียวปั้นกินคู่กับกับเครื่องเคียงแบบจัดเต็ม ก็แซ่บไม่แพ้กัน
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 20.30 น. (ปิดวันจันทร์)
ราคา : 200 – 500
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/RK325wjpUbMk3wGHA
14. Kung Wo Beancurd Factory

ร้านมิชลิน ฮ่องกง ต่อด้วยการพาไปกินน้ำเต้าหู้กันที่ Kung Wo Beancurd Factory ร้านเต้าหู้ในตำนานที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1893 ร้านนี้เขาทำเต้าหู้เองทุกขั้นตอน หอมกลิ่นถั่วเหลืองเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้าน เมนูที่ทุกคนต้องสั่งคือ เต้าฮวยพุดดิ้ง เนื้อเนียนละมุนลิ้น ตัวร้านก็ตกแต่งผนังด้วยภาพวาดเล่าขั้นตอนการทำเต้าหู้ ดูเก๋และดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้แวะมาชิม ถึงแม้จะเป็นร้านสตรีทฟู้ดแต่ก็ได้ Bib Gourmand อร่อยถูกใจทั้งคนฮ่องกงและนักท่องเที่ยวเลย
เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 20.30 น.
ราคา : 50 – 100 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fz2boP3bQmHhhcLd6
15. Hop Yik Tai

Hop Yik Tai เป็นร้าน Michelin Street Food ขายก๋วยเตี๋ยวหลอดสไตล์ฮ่องกงที่แนะนำในมิชลินไกด์ เมนูท้องถิ่นสุดคลาสสิกที่ทั้งถูกและอร่อย โดยเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดที่ทำจากแผ่นแป้งก๋วยเตี๋ยวนุ่มๆ ตัดเป็นขึ้นพอดีคำ นำมานึ่งแล้วราดซอสเนยถั่ว ซอสหวานและซอสพริก โรยหน้าด้วยงาขาว เป็นเมนูที่ชาวฮ่องกงนิยมทานเป็นอาหารทานเล่นระหว่างวัน ใครที่แวะไปย่านเกาลูนอย่าลืมไปชิมนะคะ
เวลาเปิด-ปิด : 06.30 – 20.00 น.
ราคา : 40 – 50 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CdUzDQ71RXTBSwcn7
16. Hung Hom Pancake

ถัดมาเป็น Hung Hom Pancake ที่มีขนมวัฟเฟิลฮ่องกงรูปร่างเหมือนไข่สีทองอร่ามติดกันเป็นแพ ที่ได้รางวัล Michelin Street Food ตั้งแต่ปี 2016 เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน มีหลากหลายรสชาติให้เลือก ซึ่งจะเข้มข้นว่าวาฟเฟิลทั่วไป เวลาทานต้องทานตอนร้อนๆ แล้วคุณจะรู้สึกฟินไปกับความนุ่มที่ซ่อนอยู่ข้างในและผิวด้านนอกกรุบกรอบ ใครไป เที่ยวฮ่องกง ก็อย่าลืมไปชิมรสชาติต้นตำรับกันนะคะ
เวลาเปิด-ปิด : 12.00 – 21.00 น.
ราคา : 50 – 100 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/AZSLJFr425pBgyDJ6
17. Keung Kee

ต่อกันที่ร้าน Keung Kee ที่ ขึ้นชื่อเรื่องห่านย่างและหมูย่าง เนื้อนุ่ม ราดน้ำมาชุ่มฉ่ำ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมาก นอกจากนี้ยังมีเมนู ไส้กรอกหมูกวางตุ้ง หรือ ไส้กรอกตับเป็ด ข้าวห่อสาหร่ายทอด และ โจ๊กกระดูกหมู ที่น่าลองไม่แพ้กัน ถือเป็นร้านเก่าแก่ประจำย่าน Causeway Bay ถ้ามาช่วงเย็นคนแน่นร้านตลอด แต่รอคิวไม่นานเพราะร้านใหญ่รับลูกค้าได้เกิน 100 คน อร่อยสมกับที่ได้รางวัล Bib Gourmand
เวลาเปิด-ปิด : 12.00 – 22.00 น. (ปิดวันจันทร์ และอาทิตยื)
ราคา : 150 – 200 บาท
พิกัด :https://maps.app.goo.gl/GLQzALnP7MMaqvw17
18. Fat Boy

หากคุณอยากลองชิมของว่างสุดคลาสสิคสไตล์ฮ่องกง Fat Boy คือของกินเสียบไม้ที่มีสารพัดชนิด มีเนื้อสัตว์ต่างๆ ได้แก่ ปลาหมึก เครื่องใน ไส้กรอก คอหมู ฯลฯ นำไปหมักกับซอส ต้มจนเปื่อยกำลังดี แล้วจับมาเสียบไม้แช่เย็น ราดด้วยซอสมัสตาร์ดที่รสชาติเข้ากันดี หรือใครชอบความแซ่บจี๊ดจ๊าด แนะนำให้ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดแทน เป็นร้าน Michelin Street Food ที่แนะนำว่าต้องลอง
เวลาเปิด-ปิด : 22.030 – 22.30 น.
ราคา : 120 -150 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/EUcH6UtKv6stL1eq9
19. Kai Kai Dessert

ถ้าคุณอยากกินบัวลอยน้ำขิงที่อร่อยที่สุดในฮ่องกง ต้องที่ร้าน Kai Kai ร้านมิชลิน ฮ่องกง รางวัล Bib Gourmand ที่ขายบัวลอยสีขาวลูกพอดีคำ แป้งเหนียวนุ่ม ตัวไส้งาดำนั้นไม่หวานจนเกินไป ตัดกับความเผ็ดร้อนของน้ำขิงสีเหลืองทองได้อย่างพอดี บางเมนูสามารถผสม 2 รสชาติได้ในถ้วยเดียว ถ้าได้กินตอนอากาศเย็นๆ บอกเลยว่าฟินมาก!
เวลาเปิด-ปิด : 12.00-01.00 น.
ราคา : 100 – 150 บาท
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/5XPJpVfSZhWUXEyM7
เห็นอย่างนี้ ใครที่มีแพลนไปฮ่องกงแล้วอยากตามรอยร้านอร่อยในมิชลินไกด์ แต่ก็ยังห่วงกระเป๋าสตางค์อยู่ สบายใจได้เลย ราคายังจับต้องได้ ไม่ได้แพงเวอร์อย่างที่หลายคนคิด บอกเลยว่าทั้งสายกินจริงจังหรือสายเที่ยวชิลๆ ก็แวะไปลองได้แบบสบายใจแน่นอน