จิ่วเฟิ่น (Jiufen) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน ในเขตนิวไทเป เป็นหนึ่งในที่เที่ยวยอดฮิตอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนิยมเดินทางมาเยือนเมื่อมาไต้หวัน ด้วยเสน่ห์ของเมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขา ถูกโอบล้อมด้วยสายหมอกและวิวทะเล ผสานเข้ากับตรอกซอยโบราณที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิม ทำให้บรรยากาศดูมีมนต์ขลังและน่าหลงใหลไม่เหมือนใคร ชวนให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสเสน่ห์ไต้หวันแบบดั้งเดิม ทั้งยังสามารถเดินชมวิว ลิ้มรสของกินพื้นเมือง ช้อปปิ้งของฝาก และเก็บภาพถ่ายสวยๆ ได้ตลอดเส้นทางทั้งกลางวันและกลางคืน
รู้แบบนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนน่าจะอยากลองไปสัมผัสบรรยากาศที่จิ่วเฟิ่นด้วยตัวเองสักครั้งแล้วใช่ไหมคะ บทความนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาทุกคนไปรู้จักจิ่วเฟิ่นให้ลึกซึ้งขึ้น ทั้งประวัติความเป็นมา ไฮไลต์ห้ามพลาด จุดเช็กอินยอดนิยม และวิธีเดินทางจากไทเปแบบสะดวกสุดๆ ใครมีแพลนไปเที่ยวจิ่วเฟิ่นต้องรีบกดเซฟเก็บไว้เลย!
ทำความรู้จัก “จิ่วเฟิ่น”

จิ่วเฟิ่น (Jiufen) เป็นหมู่บ้านโบราณที่มีจุดเริ่มต้นจากชุมชนเล็กๆ เพียง 9 ครัวเรือนในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งถือเป็นหมู่บ้านห่างไกลและเข้าถึงได้ยากในยุคนั้น การขนส่งสิ่งของและเสบียงจึงไม่สะดวกนัก ทุกครั้งที่มีพ่อค้าหรือคนนำของขึ้นภูเขามา ชาวบ้านทั้ง 9 ครอบครัวจะสั่งของในปริมาณเท่าๆ กันคือ “เก้าส่วน” เสมอ คำว่า “จิ่วเฟิ่น” ซึ่งมีความหมายว่า “เก้าส่วน” จึงถูกใช้เรียกเป็นชื่อหมู่บ้านตั้งแต่ตอนนั้น และกลายเป็นชื่อที่สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน

ต่อมาในปี ค.ศ. 1890 มีการค้นพบทองคำในหมู่บ้าน รัฐบาลไต้หวันจึงเข้ามาพัฒนาให้จิ่วเฟิ่นกลายเป็นเมืองเหมืองแร่ที่เฟื่องฟูอย่างรวดเร็ว มีทั้งชุมชน ร้านค้า และผู้คนอพยพเข้ามาทำงานจำนวนมาก จนได้รับฉายาว่า “เมืองทองคำของไต้หวัน” แต่เมื่อทรัพยากรเริ่มร่อยหรอ เหมืองก็ทยอยปิดตัวและเศรษฐกิจในชุมชนก็เริ่มซบเซาลงในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 จนรัฐบาลท้องถิ่นได้เริ่มฟื้นฟูหมู่บ้านอีกครั้งโดยการอนุรักษ์บ้านเรือนเก่า ถนนโบราณ และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ พร้อมปรับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่มีทั้งร้านน้ำชา ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านของฝาก ตรอกโบราณ จุดชมวิว และที่พัก ทำให้จิ่วเฟิ่นกลับมามีชีวิตชีวาและกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมจนถึงปัจจุบัน และเนื่องจากจิ่วฟิ่นเคยถูกยึดครองโดยญี่ปุ่น ทำให้พื้นที่แห่งนี้ได้รับอิทธิพลด้านวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมจากญี่ปุ่นมาด้วย กลิ่นอายและบรรยากาศต่างๆ จึงมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนที่ไหนเลยค่ะ
รวม 5 จุดเช็คอิน ไฮไลต์เด็ดห้ามพลาดใน จิ่วเฟิ่น
1. ถนนโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Street)

ถนนโบราณ จิ่วเฟิ่น คือย่านหลักของหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านชา คาเฟ่ ของกินพื้นเมือง และของฝากท้องถิ่น เรียงรายตลอดสองฝั่งทาง ใครที่เป็นสายช้อปหรือสายกิน พี่เห็ดรับรองว่าต้องถูกใจ เพราะมีของขึ้นชื่อให้ชิมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบัวลอยเผือก ลูกชิ้นปลา ชานมไต้หวัน ขนมพื้นเมือง ของทอดสไตล์ไต้หวัน รวมถึงของทานเล่นอื่นๆ ที่หาซื้อได้เฉพาะแถบนี้เท่านั้น อีกอย่างที่ห้ามพลาดก็คือ ไอศกรีมถั่วตัดผักชี นอกจากของกินแล้ว ยังมีร้านขายของฝาก งานแฮนด์เมด ของที่ระลึก และสินค้าแบบท้องถิ่นให้เลือกซื้อตลอดเส้นทาง ยิ่งในช่วงเย็นที่เริ่มเปิดไฟจากโคมสีแดง บรรยากาศจะยิ่งมีเสน่ห์และเหมาะกับการเดินเล่นถ่ายรูปแบบสุด ๆ
2. ร้านน้ำชาอาเหมย (A Mei Teahouse)

ร้านน้ำชาอาเหมย ตั้งอยู่ในถนนโบราณจิ่วเฟิ่น ถือเป็นสัญลักษณ์ของ Jiufen เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นร้านที่โดดเด่นด้วยอาคารสไตล์ไต้หวันดั้งเดิมประดับด้วยโคมไฟสีแดงเรียงรายตามระเบียงและหน้าต่าง สร้างบรรยากาศที่ทั้งคลาสสิกและมีเสน่ห์เฉพาะตัว เมื่อมองจากด้านนอกจะเห็นร้านตั้งอยู่บนไหล่เขา มองลงไปเห็นวิวทะเลและภูเขาสลับชั้นอย่างสวยงาม ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ตกแต่งให้คงกลิ่นอายโรงน้ำชาเก่าแบบไต้หวันที่ผสมผสานบรรยากาศโบราณเข้ากับความอบอุ่นได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ร้านน้ำชาอาเหมยยังถูกกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของฉากสำคัญในภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง Spirited Away ทำให้เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปและแฟนอนิเมะจากทั่วโลก
3. วัดเซี่ยไห่ (Jiufen Xiahai City God Temple)

ใครที่อยากขอพรเรื่องคู่ครอง ความสัมพันธ์ หรือความรักราบรื่นต้องปักหมุดรัวๆ เพราะ วัดเซี่ยไห่ ขึ้นชื่อเรื่องการประทานพรด้านความรักและชีวิตคู่ ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของ เทพเจ้าเยว่เหล่า เทพแห่งความรักที่ชาวไต้หวันให้ความเคารพศรัทธา เชื่อกันว่าหากอธิษฐานด้วยความตั้งใจและระบุคำขออย่างชัดเจน ก็จะได้รับพรให้สมหวังในความรัก พบคู่ที่เหมาะสม หรือให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปอย่างราบรื่น หรือใครจะขอพรเรื่องความมั่งคั่ง การงาน สุขภาพก็ได้เหมือนกัน นอกจากความศักดิ์สิทธิ์แล้ววัดแห่งนี้ยังมีเสน่ห์ในเรื่องสถาปัตยกรรมและบรรยากาศที่เงียบสงบต่างจากถนนโบราณด้านนอก ตัววัดตกแต่งด้วยลวดลายมังกรแบบจีนดั้งเดิม สีแดง-ทอง และมีมุมชมวิวที่สามารถมองเห็นภูเขาและทะเลได้จากด้านหน้า ตอบโจทย์ทั้งสายมู สายเที่ยว และสายถ่ายรูปในที่เดียว พี่เห็ดบอกเลยว่าเป็นพิกัดเด็ดที่หากได้มาเที่ยว Jiufen ไม่ควรพลาด!
4. พิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำจินกวาสือ (Jin Gua Shi Gold Museum)

อีกหนึ่งสถานที่ที่ช่วยบอกเล่าความรุ่งเรืองในอดีตของ จิ่วเฟิ่น ได้เป็นอย่างดี ก็คือ พิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำจินกวาสือ เพราะที่นี่เคยเป็นพื้นที่ทำเหมืองทองคำที่สำคัญของไต้หวันมาก่อน ปัจจุบันถูกปรับให้เป็นพิพิธภัณฑ์เชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพื่อบอกเล่าชีวิตคนงานเหมือง เครื่องมือที่ใช้ขุดทอง เส้นทางการทำงานในอดีต รวมถึงเรื่องราวการค้นพบทองคำครั้งใหญ่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมอาคารเก่า อุโมงค์จำลองห้องเหมือง และชมทองคำแท่งขนาดยักษ์ น้ำหนัก 220 กิโลกรัม ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีโซนจัดแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟและกิจกรรมลองร่อนทองให้ได้สัมผัสบรรยากาศสมัยเหมืองเฟื่องฟูอีกด้วย
5. โรงละครเซิงผิง (Shengping Theater)

โรงละครเซิงผิง เป็นโรงภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1916 เพื่อให้ความบันเทิงแก่คนงานเหมืองและชุมชนในละแวกใกล้เคียง ก่อนจะขยายและปรับปรุงในปีถัดมาให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ตัวโรงละครยังคงโครงสร้างดั้งเดิมสไตล์ไต้หวันผสมกลิ่นอายของญี่ปุ่น ทั้งเวทีไม้ เก้าอี้เก่า ป้ายโรงหนัง และเครื่องฉายภาพยนตร์สมัยก่อน ภายในจัดแสดงภาพถ่ายย้อนยุค โปสเตอร์เก่า และบรรยากาศที่พาย้อนกลับไปในช่วงปี ค.ศ. 1900 – 1950 ได้อย่างชัดเจน แม้ไม่ได้เปิดฉายภาพยนตร์จริงเหมือนอดีต แต่อาจมีการฉายภาพยนตร์เก่า หรือสารคดีให้ได้ชม ที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ช่วยเล่าเรื่องราวของชุมชนยุคเหมืองทอง พร้อมมุมถ่ายภาพวินเทจที่หลายคนชอบแวะไปเช็กอิน
การเดินทางไปจิ่วเฟิ่นจากไทเป
จิ่วเฟิ่นอยู่ห่างจากไทเปประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 40 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือก โดยตัวเลือกการเดินทางยอดนิยม มีดังนี้
1. รถไฟ + รถบัส (วิธีที่คนใช้มากที่สุด)
– นั่งรถไฟ TRA จากสถานี Taipei Main Station ไปลงที่สถานี Ruifang Station ใช้เวลาประมาณ 35 – 45 นาที
– จากหน้า Ruifang Station ต่อ รถบัสสาย 788, 965 หรือ 1062 มาลงที่ป้าย Jiufen Old Street ใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที
2. รถบัสตรงจากไทเป (ไม่ต้องเปลี่ยนรถ)
ขึ้นรถบัสสาย 965 หรือ 1062 ที่ Ximen MRT หรือ Taipei Main Station นั่งยาวไปลงที่ป้าย Jiufen Old Street ใช้เวลาราว 60 – 80 นาที (ค่าโดยสารประมาณ 90 – 120 TWD)
3. แท็กซี่หรือเหมารถส่วนตัว
เดินทางตรงจากไทเปไปจิ่วเฟิ่นทันที ใช้เวลาประมาณ 40 – 50 นาที (ค่าโดยสารประมาณ 1,200 – 1,800 TWD)
จิ่วเฟิ่น มีดีทั้งบรรยากาศ ของกิน แลนด์มาร์คถ่ายรูป รวมถึงจุดไหว้พระขอพร ใครชอบเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์หรืออินกับวัฒนธรรมดั้งเดิม พี่เห็ดบอกเลยว่าที่นี่คือพิกัดที่ต้องมีในลิสต์เมื่อมา เที่ยวไต้หวัน และถ้าอยากเที่ยวจิ่วเฟิ่นแบบสบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง ต่อรถ หรือวางแผนเอง สามารถจอง ทัวร์ไต้หวัน กับมัชรูมทราเวลได้เลย พี่เห็ดมีโปรแกรมพาเที่ยวจิ่วเฟิ่นและพิกัดไฮไลต์เด็ดๆ ในไต้หวันแบบครบครัน ตอบโจทย์ทั้งสายกิน สายชิล สายถ่ายรูป และคนที่อยากเก็บแลนด์มาร์กให้ครบในทริปเดียว!