Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtravel
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

4วัน 3คืน ปังๆ ที่ Pulau Penang : Malaysia

โพสเมื่อ

ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ เที่ยว ปีนัง แห่งมาเลเซีย ตลอดทริป 4 วัน 3 คืน เป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเรานัก แถมยังเที่ยวไม่ยากอีกด้วย จะเป็นอย่างไรต้องติดตามกันค่ะ


สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เรามารีวิวทริปของเราแบบทั้งทริป
ซึ่งสถานที่ก็เป็นเมืองเล็กๆ ของประเทศมาเลเซีย นั่นก็คือ ” ปีนัง “

ปีนัง ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย และมีเมืองหลวงชื่อว่า “จอร์จทาวน์ (George Town)”
มีประชากรเพียงแค่ล้านต้นๆ แต่มีการผสมผสานหลายเชื้อชาติและศาสนา

ทำไมต้อง เที่ยวปีนัง ? – เราเดินทางกันช่วง 8-11 ก.ค. 2560 ซึ่งมันค่อนข้างน้อยถ้าจะไปประเทศไกลๆ เราเลยหาที่ที่ใกล้และไม่แพง ซึ่งปีนังอยู่แค่ทางภาคใต้ของเราเองใช้เวลานั่งเครื่องไม่ถึง 2 ชั่วโมง เมื่อตรงกับความต้องการของเราแล้วก็ลุยเลยยยย !

ทริปนี้เรานั่งเครื่องด้วยกัน 2 สายการบิน เนื่องจากตอนวางแพลนเราไม่รู้เกี่ยวกับ taxi มากนัก ว่าที่ปีนังก็ใช้แอพ Grab เหมือนกัน ซึ่งสายการบิน Thai Smile ไฟลท์กลับเช้ามากกก เราเลยกลัวเรื่องรถเมล์ตอนไป ทำให้เลือกใช้บริการของ AirAsia ขากลับค่ะ

สำหรับใครที่มีแอพของ Grab อยู่แล้วสามารถเข้าไปจอง taxi ในแอพได้เลย แต่อย่าลืม! เปลี่ยนเบอร์มือถือเป็นเบอร์มาเลเซียก่อนนะคะ เผื่อคนขับเขาต้องการติดต่อเรา

เงินตรา (ณ วันที่ 7 ก.ค.) : 7.85 baht = 1 ringit ทั้งทริปแลกเงินไป 7,000 บาท (ค่ากิน+เที่ยวสำหรับสองคน) แบบไม่มีแลกเพิ่ม

Day 1

BKK-PEN
ไฟลท์ขาไปคือ 12:00-14:45

เราไปถึงก่อนเวลาเลยได้เข้าไปใช้บริการ King Power Lounge
ข้อดี : ที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบาย มีที่ชาร์ตแบต แล้วก็มีโซนที่อยู่ติดกับรันเวย์เลยสามารถนั่งดูเครื่องบินเพลินๆ ได้
ข้อเสีย : อาหารลงช้าไปหน่อยไม่พอกับจำนวนคน แล้วก็เมนูค่อนข้างน้อย (ถ้าใครคิดว่าจะไปพึ่งเป็นแหล่งมื้อเช้าไม่แนะนำค่ะ)

เครื่อง Take off แล้ววว ซักพักได้รับอาหารว่างเป็น Tortilla Wrap
และเนื่องจากโอกาสพิเศษครบรอบ 5 ปี เลยได้รับขนมชีสทาร์ตจากแบรนด์ดังของญี่ปุ่นอย่าง Pablo อีกด้วย

หลังจากกินอิ่มแล้วก็นั่งอ่านหนังสือไปซักพัก ก็ถึงสนามบินนานาชาติ ปีนัง (ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที)
พอออกจากตม.ปุ๊บ สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือ หาซื้อซิม ร้านก็จะอยู่ก่อนทางลงบันไดเลื่อนก่อนจะไปรับกระเป๋าค่ะ
มีหลายร้านมากๆ ทั้ง Tune Talk, Maxis แต่ยี่ห้อที่เราเลือกก็คือ Digi (เท่าที่ศึกษามาได้รับการโหวตมากสุด)

วิธีการเข้าตัวเมืองของเราก็คือ นั่งรถเมล์ rapid สาย 401E

ต้องบอกตามตรงว่า ใครที่มีสัมภาระใหญ่และหนักอย่างเราไม่แนะนำให้ขึ้นรถเมล์นะคะ อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าเราไม่รู้เรื่อง taxi มาก่อน เลยแบกกระเป๋าเดินทางขึ้นรถเมล์ ความจริงคือลำบากมากกกกกก เพราะรถเขาไม่อำนวยไม่มีที่วางกระเป๋าใดๆ แนะนำให้เรียก taxi ดีสุดค่ะ เพราะห่างตัวเมืองไม่ไกลมากใช้เวลาแป๊ปเดียว

เหนื่อยมากๆ ลากกระเป๋ามาโรงแรมจนล้อพังไปข้าง
โรงแรมที่เราเลือกคือ Hotel Sentral : เลือกโดยยึดตึกคอมต้าร์ (Komtar) ศูนย์กลางรถเมล์เป็นหลัก ซึ่งที่นี่ห่างเพียง 10 นาทีเท่านั้น

โชคดีมากที่เราได้ห้องริมสุดของชั้น ทำให้เห็นวิวตึกคอมต้าร์ได้อย่างชัดเจน
ดึกๆ ที่ตึกจะมีเปิดไฟแบบเปลี่ยนสีไปมา สวยมาก

หลังจากที่เราพักเหนื่อยอะไรแล้วเรียบร้อย
เราก็เดินไปหาของกินกันที่แถวๆ Kimberley Street Food ซึ่งแถวนั้นเขาบอกว่าของกินเยอะมาก
แล้วใครจะไปรู้ว่า ที่นั่นเป็นมื้อเย็นของเราตั้ง 2 วัน 5555555

1. ร้านแรก : Nyonya old house, lebuh keng kwee ก๊วยเตี๋ยวน่องเป็ด (ไม่มีรูปอาหารมาให้ด้วยความหิวจัด)
เส้นก๋วยเตี๋ยวบ้านเขาจะเป็นคล้ายๆ เส้นหมี่ซั่วแต่เป็นสีขาว ส่วนรสชาติถือว่าอร่อย อีกอย่างเจ้าของร้านพูดไทยได้ด้วย

2. ของคาวไปแล้วก็ต้องต่อของหวาน : Penang road famous teochew chendul, lebuh keng kwee ลอดช่องเจ้าดังของปีนัง
ร้านเขาไม่มีที่นั่งทานนะคะ ต้องไปสั่งแล้วหยิบถ้วยมายืนกินข้างๆ ร้าน
พอกินเข้าไปแล้วชื่นใจ หายเหนื่อยปลิดทิ้ง ถ้วยนึงราคา RM2.9 ค่ะ

-จบแล้วสำหรับวันแรก-

Day 2

อรุณสวัสดิ์ด้วยวิวจากถนนใหญ่แถวโรงแรม
บ้านเขาพระอาทิตย์จะขึ้นช้า เวลา 7.30 แล้วบ้านเมืองยังเงียบอยู่เลยคนก็ยังน้อยๆ อยู่

วันนี้มื้อเช้าของเราจะไปกินติ่มซำกัน ร้านชื่อว่า “Prosperous Dimsum”
เดินจากโรงแรมไปประมาณ 10 นาที ผ่านถนน Jalan Macalister

ไปถึงสั่งน้ำชาก่อนแล้วพนักงานจะให้ใบรายการติ่มซำมา เวลาเราจะไปสั่งก็ให้ถือไปด้วย
แล้วคนขายเขาจะติ๊กเองว่าเราสั่งอะไรราคาเท่าไหร่ พอกินเสร็จเราก็เดินไปจ่ายตังที่ counter เองได้เลยค่ะ

พอกินเสร็จเราก็เดินย้อนกลับไปตึกคอมต้าร์เพื่อไปขึ้นรถ CAT ฟรี
Komtar > Fort Cornwallis

วิธีขึ้นรถเมล์ : ขึ้นจากด้านหน้า > บอกคนขับรถว่าจะไปไหน > จ่ายตังให้พอดีลงตู้ (ไม่มีทอน)

Fort Cornwallis : เป็นป้อมปราการติดทะเลแล้วก็เป็นพวกห้องหลบภัย
ตอนนั้นไปเหมือนมีงานเลยไม่ได้ชมไรมาก ใช้เวลาอยู่ในนั้นไม่ถึงชั่วโมงค่ะ

เดินออกมานิดนึงจะเจอกับหอนาฬิกาอยู่กลางถนน มีชื่อว่า Queen Victoria

จริงๆ แถบนั้นมีที่ให้ถ่ายรูปสวยๆ เยอะมาก สามารถเดินไปได้เพราะมันอยู่ติดๆ กันเลย
อีกที่นึงที่เราไม่ได้ไปเก็บก็คือ Penang City Hall จะอยู่ข้างๆ ป้อมปราการเลยค่ะ

ที่ต่อไปคือ The Blue Mansion
อันนี้เราหารถเมล์ไปกันค่ะเพราะถ้าเดินก็ไกลพอสมควร แต่จำไม่ได้ว่าสายไหน
ขึ้นจากตรงข้าม Penang City Hall ป้ายจะเลยเซเว่นนิดหน่อยค่ะ

The Blue Mansion : หรือเรียกว่าคฤหาสน์สีฟ้า นอกจากนี้ยังเปิดให้เป็นโรงแรมด้วย
เขาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมข้างในโดยแบ่งเป็น 11.00 , 14.00 และ 15.30
(แต่เราไม่ได้เข้าไปชมข้างในนะ ถ้าใครได้เข้าไปมาแบ่งปันกันได้น้าาา)

เดินไปอีกนิดหน่อยทะลุตามซอกซอย ก็จะเจอกับวัดนึงชื่อว่า Hainan Temple
อยู่ระหว่างทางไป camera museum เลย

Camera Museum : เลยวัดไปไม่กี่ก้าว ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะว่าชมแต่ข้างล่าง
ถ้าใครชื่นชอบพวกรูปภาพสามารถขึ้นไปชมข้างบนได้แต่ต้องเสียค่าขึ้นนะคะ

อากาศร้อนมากตอนเราไปเลยขอแวะคาเฟ่พักเหนื่อยซะหน่อย
55 Cafe ร้านตกแต่งเป็นตึกสีขาวสวยงามน่านั่ง
เข้าไปก็สั่งเครื่องดื่มมาคนละแก้ว นอกจากนี้ร้านเขาก็มีพวกของคาว เค้ก ต่างๆ นานา
ใครที่เดินผ่านแถวนั้นก็แวะไปกินได้นะ ราคาไม่แพงมากค่ะ

ได้เวลามื้อเที่ยงแล้ว แต่ยังไม่มีร้านอาหารในแพลนเลย
เราเลยใช้วิธีหาจาก Google Map โดยการซูมใกล้ๆ ที่เราอยู่ 55555

Yeap Noodles พอไปถึงปุ๊บตกใจเล็กน้อยเพราะคนกินเยอะอยู่แสดงว่าอร่อย
เมนูส่วนใหญ่เป็นเส้น แต่ละชามส่วนผสมต่างกันแล้วแต่เราจะเลือก
ซึ่งเราเลือกเป็นเส้นเขียวจากผักโขม และเส้นดำจากชาโคล
ความจริงคืออร่อยมากกก ให้10/10เลย

เป้าหมายต่อไปเราจะไปบริเวณที่เป็น Street Art
รูปก็จะเป็นระหว่างทางที่เราเดินไปเจอค่ะ

Khoo Kongsi : หรือบ้านตระกูลคู ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดของ ปีนัง
ต้องเสียค่าเข้าด้วยนะคะ ผู้ใหญ่คนละ RM10

เข้ามาแล้วแบบอลังการมาก

ถ้าใครขึ้นไปชมแล้วอย่าเพิ่งกลับค่ะ ข้างล่างยังมีพิพิธภัณฑ์ตระกูลอยู่
จัดแสดงตั้งแต่ต้นกำเนิดตระกูลแล้วปิดท้ายด้วยรวมรุ่นทั้งหมด

ก่อนจะจบวัน เราจะไปไหว้พระวัดไทยกันค่ะ ชื่อว่า วัดไชยมังคลาราม
ซึ่งค่อนข้างห่างไปไกลต้องนั่งรถเมล์สาย 101 รถเมล์จะจอดปากซอยของวัดเลย

พอไหว้พระเสร็จแล้วเราก็แอบเห็นมีร้านไอติมอยู่ด้านประตูวัดเลย คนยืนกินเพียบ
เลยต้องขอลองซะหน่อย ถ้วยนึง RM3.5 มีใส่ถั่วและข้าวโพด

ตรงข้ามจะมีวัดพม่าด้วยนะชื่อว่า วัดธรรมิการาม เลยเข้าไปไหว้ด้วยเลย

พอไหว้พระเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากซอยมาเรียกรถสายเดิมกลับตึกคอมต้าร์
มื้อเย็นวันนี้ก็เป็นที่เดิมก็คือ Kimberley Street Food

วันนี้เราเลือกกินข้าวผัด สไตล์ก็คล้ายๆ บ้านเราใส่กุ้ง หมูแดง อร่อยคุ้มราคามาก

กินเสร็จก็เดินกลับโรงแรม แต่ระหว่างทางได้เจอเข้ากับร้านขายขนม เลยเลือกเป็นของฝากกลับบ้าน
ชื่อร้านว่า Ming Xiang Tai มีขายทั้งทาร์ตไข่และก็คล้ายๆ กับขนมเปี๊ยะ (ไม่รู้เรียกว่าอะไร)

ทาร์ตไข่ที่นี่อร่อย และไม่หวาน ทำให้กินแล้วไม่รู้สึกเลี่ยนเลย
ใครอยากซื้อของฝาก ร้านนี้เขามีหลายสาขาค่ะลองหาดูได้

-สิ้นสุดวันที่สอง-

Day 3

มื้อเช้าวันนี้เป็นร้านก๊วยเตี๋ยวซึ่งเป็นทางผ่านไปร้านติ่มซำที่เมื่อวานเราไป
ไหนๆ ก็เล็งไว้แล้ว วันนี้เลยเข้ามาลองกินซะหน่อย
ชื่อร้าน “Tong Lek 8 cafe”

แผนเดินทางของเราวันนี้ที่แรกจะเป็น Penang Hill โดยขึ้นรถเมล์สาย 204 สุดทางเลย
ค่าเข้าผู้ใหญ่คนละ RM30 (round-trip)

ที่นี่มีตั๋วขายแบบเที่ยวเดียว เพราะว่าบางคนก็ใช้เดินขึ้นเดินลงแทน
(แต่ที่แน่ๆไม่ใช่เรา 55555555)

พอขึ้นมาถึงด้านบนก็จะมีอะไรให้ทำเยอะแยะ เช่น พิพิธภัณฑ์นกฮูก คล้องกุญแจคู่รัก

แต่วันนี้เราจะไปจุดที่เป็น climax ของวันนี้ รู้สึกชอบมากกกก
นั่นก็คือ “The Habitat” เป็นทางเดินธรรมชาติ ร่มรื่นสุดๆ
ค่าเข้าผู้ใหญ่คนละ RM50 ถือว่าคุ้ม เพราะมีพนักงานคอยดูแลเป็นอย่างดีตลอดทาง

วิธีการเดินของที่นี่ ระยะทางประมาณกิโลนิดๆ (แค่ขาเดียว) ตอนกลับจะออกไปเดินถนนข้างนอกก็ได้
หรือจะย้อนกลับมาทางเดิมก็ได้หมด แล้วก็จะได้รับแผนที่ทางเดินมาให้ว่ามีด่านไรน่าสนใจบ้าง

จุดนี้แหละเป็นจุดที่ชอบที่สุดของที่นี่
วันที่เราไปท้องฟ้าครึ้มมาแต่ไกล แล้วซักพักฝนก็เทมาเลยต้องรีบลงจากอันนี้

พอฝนตกปุ๊ปพนักงานก็รีบเอาร่มมาให้คนละคัน พร้อมบอกให้วิ่งไปที่คาเฟ่ ซึ่งห่างจากจุดนี้ประมาณ 5 นาทีค่ะ
ระหว่างรอฝนหยุดตกเราก็นั่งชิวๆ ที่คาเฟ่ แล้วก็ข้างๆ มีเป็นร้านขายของที่ระลึกด้วย

ฝนหยุดตกแล้วเราก็เดินกลับทางเดิม ไปถ่ายซ่อมจุดที่เราเดินผ่านมาตอนฝนตก
ก็ได้รูปสวยๆ โทนสีเขียวมาเต็มเลย บรรยากาศก็ดีมากๆ ชอบมากค่ะ

ที่ต่อไปของวันนี้คือ “Kek Lok Si” หรือเจ้าแม่กวนอิม
เดินทางโดยขึ้นรถสาย 204 จากด้านหน้า Penang Hill เหมือนเดิม
รถจะจอดป้ายหน้าปากซอยซึ่งเราก็ต้องเดินไปต่อเองค่ะ

ทางผ่านเราเจอกับร้านข้าวหน้าเป็ดร้านนึง ค่อนข้างใหญ่ เลยลุยเลยเพราะหิวมากแล้ว

เมนูต่อไปคือของหวาน ชื่อว่า “Ais Kacang” ก็เป็นน้ำแข็งไสราดน้ำแดงแบบบ้านเรา

เดินต่อไปซักพักก็เห็นตัววัดแล้ว

ทางขึ้นไปด้านบนของวัดแนะนำให้ขึ้นทางด้านข้าง มันจะคล้ายๆ กับตลาดขายของ
ทางเดินเล็กหน่อย แต่ข้อดีคือไม่ร้อนค่ะ ตอนเราไปเราขึ้นทางรถเลยซึ่งเหนื่อยมากๆ เพราะมันชันแบบขึ้นเขา

แต่ถ้าจะขึ้นไปชมองค์เจ้าแม่กวนอิม ต้องขึ้นลิฟต์ขึ้นไปค่ะ
ผู้ใหญ่คนละ RM6

พร้อมกับเห็นวิวสวยๆ แบบนี้ด้วย

พอเสร็จจากตรงนี้แพลนเดิมของเราคือไปตามเก็บ Street Art ให้ครบ
แต่สุดท้ายก็ยอมทิ้งแล้วเพราะเหนื่อยและเมื่อยมากๆ (โชคดีเมื่อวานเก็บไปบ้างแล้ว)

หลังจากตรงนี้เราจะไปขึ้นรถสาย 401E เพื่อไปตลาดโต้รุ่ง Gurney Drive กัน
ของเราเราขึ้นรถจากศูนย์รวมรถ Weld Quay

นั่งรถไปนานพอสมควร แล้วสุดท้ายก็มางป้ายที่เป็นห้าง Gurney Plaza จะอยู่ด้านขวามือ

วิธีไปตลาดคือ เข้าไปตัวห้างแล้วทะลุไปด้านหลัง จะเห็นถนนริมทะเล
เลี้ยวซ้ายออกไป เดินไปซักพักจนเห็นวงเวียนน้ำพุ ก็จะเห็นตลาดเลยค่ะ

ไก่สเต๊ะ

มาถึงปีนังต้องกินนี่เลย เป็นเมนูห้ามพลาดชื่อว่า “ลักซา” และ “ชาก๊วยเตี๋ยว”

พอกินเสร็จเราก็เดินหาป้านรถเมล์นั่งรถสาย 103 กลับโรงแรมเรา
โชคดีมากที่มันจอดป้ายถนนโรงแรมเราเลย ก่อนจะเลี้ยวไปตึกคอมต้าร์

งั้นเราขอจบวันที่สามตรงนี้เลยล่ะกัน
-สิ้นสุดวันที่สาม-

Day 4

PEN-BKK
ไฟลท์กลับคือ 14.40-15.25

มื้อเช้าเราเป็นติ่มซำอีกแล้ว แต่วันนี้มาลองอีกร้าน
ชื่อร้านว่า “Restoran Zim Sum” อยู่ถนนหน้าโรงแรมเลย

แล้วก็กลับมาเก็บข้าวเก็บของเสร็จ ก็เรียก Grab Taxi มารับ
รถที่มารับเป็นรถเก๋งทั่วไป เท่าที่สังเกตยี่ห้อนี้จะเป็นที่นิยมของคนที่ ปีนัง ด้วย
ค่ารถแสดงตามในแอพเลย เหมือนที่ไทย ค่ารถที่เรานั่งไปคือ RM21

ด้วยความกลัวไปไม่ทันเราก็ออกจากโรงแรมซะเร็วเลย ความจริงนั่งรถไปประมาณ 30 นาที
พอไปเร็วก็ยังเช็คอินไม่ได้ เลยจำเป็นต้องไปหาที่นั่งรอ
เราเลยเลือกไปร้าน “Old Town White Coffee”

จบแล้วค่าสำหรับทริป เที่ยวปีนัง ปิดท้ายด้วยรูปนี้ละกันนะ
ไว้จัดทริปที่ไหนจะมารีวิวให้ดูอีกน้า ฝากติดตามด้วยค่ะ บ้ายบาย

ขอบคุณ Guest สุดพิเศษ คุณ Trippa สังกัด Pantipจากกระทู้ “[CR] 4วัน3คืนปังๆที่ Pulau Penang : Malaysia” ที่มามอบประสบการณ์ เที่ยวพม่า ย่างกุ้ง พุกาม หงสา สามเมือง สามสไตล์ ให้ชมแบบจัดเต็ม! ได้รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ยย!!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่ : https://www.facebook.com/trippaxfm/


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์มาเลเซีย ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง