Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

3 จุดชม ซากุระ โตเกียวสุดฟินไปเช็คอินถ่ายรูปชิคๆกัน

โพสเมื่อ

ประเทศญี่ปุ่น ดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ สถานที่ในฝันของใครหลายคน เมื่อพูดถึงประเทศนี้ สิ่งแรกที่แว้บเข้ามาในหัวทันทีทันใดเลยก็คือ ภาพเจ้าดอกไม้สีชมพูแสนสวย หนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ใช่แล้วค่ะ เจ้าดอกซากุระ นั่นเอง
ในหนึ่งปีจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่ชาวญี่ปุ่นต่างเฝ้ารอคอยอยากให้มาถึงอย่างใจจดใจจ่อ ช่วงเวลาที่ว่านั้นก็คือ วันที่ดอกซากุระจะเริ่มผลิบานนั่นเอง
เมื่อถึงฤดูที่ดอก ซากุระบาน จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกไม้ หรือ “โอะฮานะมิ” ซึ่งคนญี่ปุ่นจะออกจากบ้านไปปิกนิกกันที่ใต้ต้นซากุระ จัดปาร์ตี้สังสรรค์กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางหมู่มวลดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่ง นี่แหละค่ะช่วงเวลาแห่งความสุขที่แท้จริงของคนญี่ปุ่นเค้าหล่ะ

ประเทศญี่ปุ่นมีซากุระมากกว่า 300 สายพันธุ์ โดยจะแตกต่างกันที่สี รูปทรง กลีบดอก สำหรับสายพันธุ์ที่พบมากสุดในญี่ปุ่นมีชื่อว่า “โซเมอิโยชิโนะ” กลีบของซากุระสายพันธุ์นี้จะมี 5 กลีบ ตัวดอกจะบานสะพรั่ง สีของดอกในตอนที่เริ่มบานช่วงแรกจะเป็นสีชมพู แต่เมื่อบานเต็มที่ สีจะออกเป็นสีขาวซะมากกว่าค่ะ
ซากุระจะบานประมาณเดือนมกราคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี โดยจะเริ่มบานจากทางภาคใต้ของประเทศญี่ปุ่นขึ้นไปยังภาคเหนือ โดยแต่ละที่จะบานเพียงแค่ประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น ทำให้ดอกซะกุระกลายเป็นดอกไม้ล้ำค่าที่ใครๆก็อยากยลโฉมของมันสักครั้งในชีวิต

วันนี้เราจึงขอนำเสนอ 3 สถานที่ชมซากุระสุดฟิน
ให้คุณได้ไปเช็คอิน ถ่ายรูปชิคๆกันที่โตเกียว 
ถ้าพร้อมแล้วตามมาเลยค่ะ

สวนสาธารณะ อุเอะโนะ (Ueno Park)

สถานที่แรก ที่เราพาคุณมาฟินกันนั้น ก็คือ สวนสาธารณะ อุเอะโนะ (Ueno Park) เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงโตเกียว สถานที่แห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากคนทุกเพศทุกวัย ที่ไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เป็นคนทุกชาติ ทุกภาษา ที่แห่กันมาชื่นชมความงามของซากุระที่ผลิดอกบานสะพรั่ง ณ ใจกลางกรุงโตเกียวแห่งนี้ โดยในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี สวนแห่งนี้ก็จะกลายเป็นสีชมพูหวานแหว๋ว เพราะมันถูกปกคลุมไปด้วยดอกซากุระที่เรียงรายกันมากกว่า 1,000 ต้น คุณจะได้เคลิบเคลิ้มไปกับความงดงามของเจ้าดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่งเต็มสองข้างทางของสวนแห่งนี้ ราวกับว่ากำลังเดินลอดอุโมงค์ดอกซากุระอย่างไงอย่างงั้นเลยค่ะ โรแมนติกสุดๆอ่ะ

การเดินทาง :

วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว), สาย Keihin-Tohoku Line (สายสีฟ้า) ลงสถานี Ueno ออกทาง Park Gate (เข้าสู่กลางสวนสาธารณะ)
วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย G-Ginza Line (สีส้ม), H-Hibiya Line (สีเทา) ลงสถานี G16/H17-Ueno ทางออก 6 (Exit 6)
วิธีที่ 3 : นั่งรถไฟสาย Keisei Line ลงสถานี Keisei-Ueno (ปลายทาง) ออกทางออกหลัก

สวนสาธารณะแห่งชาติชินจูกุ เกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden)

มาฟินกันต่อกับสถานที่แห่งที่ 2 กันค่ะ ตามมาที่นี่เลย สวนสาธารณะแห่งชาติชินจูกุ เกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden) สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นที่นิยมมากที่สุดของกรุงโตเกียว ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟชินจูกุ เป็นสถานที่ที่ให้บรรยากาศเงียบสงบ เพื่อให้ผู้คนผ่อนคลายจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ และที่สำคัญก็คือเป็นสถานที่ชมดอกซากุระที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยแหละ
ในสวนแห่งนี้มีเนื้อที่ทั้งหมดถึง 583,000 ตร.ม. มีการจัดสวนผสมผสานกัน 3 แบบ คือ แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น แบบฝรั่งเศส และภูมิทัศน์แบบอังกฤษ เลิศสุดๆไปเลย สวนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นก็จะประกอบไปด้วย บ่อน้ำขนาดใหญ่ เกาะเล็กๆ มีสะพานข้ามแม่น้ำ รอบๆบ่อน้ำตกแต่งด้วยพุ่มไม้ที่สวยงามสีสันสดใส พร้อมศาลานั่งพัก บรรยากาศร่มรื่นมากๆค่ะ และช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนพฤศจิกายนจะมีจัดแสดงดอกเบญจมาศในสวนแห่งนี้ด้วย
ส่วนสวนสไตล์ฝรั่งเศสและสวนสไตล์อังกฤษ จะมีสนามหญ้ากว้างๆรายล้อมด้วยต้นซากุระกว่า 400 ต้น 12 สายพันธุ์ ซึ่งจะบานในช่วงกลางเดือนมีนาคม-ปลายเดือนเมษายน ส่วนพื้นที่อื่นๆของสวนนั้น เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ศูนย์ข้อมูล แกลเลอรี่ศิลปะ และเรือนกระจกที่มีไม้ดอกสวยงามจากเขตร้อน และกึ่งเขตร้อนจำนวนมาก เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวเที่ยวได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อเลยล่ะค่ะ

การเดินทาง :
วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย M-Marunouchi Line (สีแดง) หรือ สาย F-Fukotoshin Line (สีน้ำตาลทอง) ลงสถานี M09/F13-Shinjuku-sanchome เสร็จแล้วออกทางออก E8
วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Toei Line สาย S-Shinjuku Line (สายสีเขียวอ่อน) ลงสถานี S02-Shinjuku-sanchome / เสร็จแล้วออกทางออก E8
วิธีที่ 3 : นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line (สายวงกลม-สีเขียว) ลงสถานี Shinjuku ออกทาง New South Exit ซี่งทั้ง 3 วิธีข้างต้นนั้น สามารถเดินมาถึงที่สวนแห่งนี้ได้ภายใน 5- 10 นาทีเท่านั้น
ช่วงเวลาที่เหมาะในการมาเที่ยวชมมากที่สุด ก็คือ เดือนเมษายน ซึ่งคุณจะได้ชมความงดงามของต้นซากุระ 1,500 ต้น ที่มีกว่า 75 สายพันธุ์ ออกดอกชมพูบานสะพรั่งไปทั่วทั้งบริเวณของสวนแห่งนี้

แม่น้ำเมะงุโระงะวะ (Meguro River)

และสถานที่สุดท้าย ที่เราภูมิใจนำมาเสนอทุกคนในวันนี้ก็คือ จุดชมซากุระที่แม่น้ำเมะงุโระงะวะ
หลังจากที่เราฟินกับซากุระที่อยู่ตามข้างทางไปละ เรามาเปลี่ยนบรรยากาศชมซากุระที่อยู่ริมแม่น้ำกันบ้างดีกว่าค่ะ แม่น้ำสายนี้มีต้นซากุระปลูกเรียงรายอยู่ถึง 830 ต้น เมื่อถึงฤดูที่ดอกซากุระผลิบาน บรรยากาศของที่นี่ก็จะสวยงามชวนฝันดั่งเทพนิยายเลยล่ะค่ะ มีสะพานข้ามแม่น้ำให้เราได้เดินข้ามไปข้ามมาชมดอกซากุระทั้งสองฝั่งอย่างจุใจ ในยามค่ำคืนจะมีการประดับไฟอย่างสวยงาม ให้คุณได้เดินชมดอกซากุระยามราตรีอย่างเพลิดเพลิน บริเวณนี้จึงกลายเป็นสถานที่นัดพบของคู่รักที่มาสวีทกันท่ามกลางแสงไฟและดอกซากุระที่บานสะพรั่งประหนึ่งเป็นสักขีพยานความรักให้กับพวกเค้า

การเดินทาง : 
วิธีที่ 1  : ลงสถานี JR Ebisu แล้วต่อรถไฟใต้ดิน สาย Hibiya Line ไปลงสถานี Nakameguro Station (H1)
วิธีที่ 2  : นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานี Nakameguro Station (H1)

เคลิ้มกันเลยใช่มั้ยล่ะคะ ขอบอกว่า บรรยากาศที่แสนตรึงตราช่วงเวลาที่แสนตรึงใจแบบนี้ คุณมีโอกาสที่จะได้ไปสัมผัสแค่หนึ่งครั้งต่อปีเท่านั้นนะคะ คุณจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป หรือจะคว้ามันไว้ก็ลองถามใจดู อิอิ ตอนนี้เจ้าดอกซากุระมันกำลังเตรียมตัวที่จะผลิบานรอคุณไป “โอะฮาโยโกะไซมัส” มันอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ออกเดินทางไปหามันกันเถอะค่ะ ก่อนที่มันจะต้องโบกมือ”ซาโยนาระ”ร่วงโรยไปซะก่อน

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id: @mushroomtravel