@MushroomTravel
ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นที่เมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียว แต่ยังมีวันว่างๆ ที่แพลนไม่ถูกว่าจะไปไหนดี หรือใครที่จอง ทัวร์ญี่ปุ่น แบบมีฟรีเดย์ เที่ยวอิสระ 1 วันในโตเกียว บทความนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะมา แจก 7 พิกัด เที่ยว โตเกียว 1 วัน เลือกเที่ยวได้ตามใจ ไม่ว่าอยากจะไปช้อปปิ้ง หาของอร่อย ไหว้ศาลเจ้า หรือตะลุยสวนสนุก ถึงจะมีเวลาแค่วันเดียวก็ฟินได้ ตามมาดูเลยค่าา
1. ตะลุยแหล่งช้อปปิ้งสุดฮิตในโตเกียว
ขาช้อปต้องไม่พลาด เที่ยว โตเกียว 1 วัน ก็ต้องไปช้อปปิ้งให้กระเป๋าฉีกกันไปข้างนึง! ซึ่งแหล่งช้อปปิ้งในโตเกียวก็มีหลากหลายพิกัดให้เลือกตามสะดวก ทั้งห้างสรรพสินค้าและย่านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ชินจูกุ (Shinjuku) ที่มีสินค้าแฟชั่นแบรนด์ดังให้ช้อปอย่างจุใจ หรือ ชิบูย่า (Shibuya) ที่นอกจากจะมีสินค้าแฟชั่นแล้ว ยังมีพวกสินค้าเบ็ดเตล็ด ของจิปาถะสไตล์ญี่ปุ่นมากมาย ส่วนใครที่เป็นสาวกตัวการ์ตูนจาก sanrio, san-x, LINE ต้องไปที่ ฮาราจูกุ (Harajuku) ย่านช้อปปิ้งวัยรุ่นที่มีแต่สินค้าน่ารักๆ เต็มไปหมด ซึ่งการเดินทางไปแต่ละย่านนั้นก็ง่ายมาก สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินก็จะถึงใจกลางของแต่ละย่านเลยค่ะ
2. เที่ยว 2 สวนสนุกที่โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท
ใครเป็นสาวกดิสนีย์แล้วมีเวลา เที่ยว โตเกียว 1 วัน พี่เห็ดแนะนำให้ตรงดิ่งไปที่ 2 สวนสนุก อย่าง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) และ โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo Disney Sea) จะไปทั้งสองที่เลยก็ได้ เพราะอยู่ติดกัน เดินทางไม่ยาก แต่ถ้าจะให้ดีก็แนะนำว่าใช้เวลาทั้งวันแบบเต็มอิ่มไปกับที่ใดที่หนึ่งไปเลยก็ได้ค่ะ ซึ่งหลายคนอาจจะยังสงสัยว่า แล้วทั้งสองสวนสนุกนี้ต่างกันยังไง..? มาค่ะพี่เห็ดจะไขข้อข้องใจให้ฟัง
โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ และ โตเกียว ดิสนีย์ซี เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ (Chiba) ซึ่งใกล้กับโตเกียวมากๆ และจังหวัดนี้ก็เป็นที่ตั้งของสนามบินนาริตะอีกด้วย ทั้งสองแห่งเป็นสวนสนุกจากดิสนีย์ที่ตั้งอยู่ติดกัน เรียกทั้งหมดรวมๆ ว่า โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ เป็นสวนสนุกที่มีรูปแบบเหมือนเทพนิยายและโลกการ์ตูน ซึ่งมีความคลาสสิก ไม่ว่าจะเป็นปราสาทซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดิสนีย์ พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็น 7 โซนหลักๆ ซึ่งแต่ละโซนก็จะเป็นธีมที่มีจากการ์ตูนหรือภาพยนตร์จากดิสนีย์ นอกจากนี้ยังมีการแสดงเป็นพาเหรดทั้งในช่วงกลางวัน และกลางคืน รวมถึงการแสดงพลุที่บริเวณปราสาท
โตเกียวดิสนีย์ซี มีแห่งเดียวในโลก โดยถูกสร้างให้เป็นสนุกที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าดิสนีย์แลนด์ เป็นธีมปาร์คที่เหมือนหลุดไปอยู่ตามท่าเรือใหญ่ๆ ในแถบทะเลตะวันตก โดยมีสัญลักษณ์เป็นลูกโลกและเรือเหาะ รวมถึงภูเขาไฟขนาดยักษ์กลางสวนสนุก พื้นที่ภายในแบ่งโซนเป็นท่าเรือ 7 ท่า และมีการสุดอลังการบนผืนน้ำ สำหรับใครที่ชื่อชอบตัวละคร Duffy and Friends ก็สามารถมาเจอได้ที่โตเกียวดิสนีย์ซีเท่านั้น
การเดินทางไปยัง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ และ ดิสนีย์ซี สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี ไมฮามะ (Maihama station) จากนั้นถ้าจะไป ดิสนีย์แลนด์ พอออกจากสถานีก็สามารถเดินเลี้ยวขวาไปได้เลย แต่ถ้าจะไป ดิสนีย์ซี ต้องต่อรถไฟของดิสนีย์ไปอีก โดยออกจากสถานีไมฮามะให้เดินเลี้ยวซ้ายเพื่อไปต่อรถค่ะ
3. หาของกินอร่อยๆ ที่ตลาดอาเมโยโกะ
ใครที่มา ทัวร์ญี่ปุ่น แบบมีฟรีเดย์ แล้วไม่อินกับการช้อปปิ้ง ไม่อินกับสวนสนุก แต่อินกับอาหารญี่ปุ่นมากกว่า พี่เห็ดแนะนำให้ไปเที่ยว โตเกียว 1 วัน เพื่อกินโดยเฉพาะ! พิกัดแหล่งของกินในโตเกียวก็มีมากมาย อย่างเช่น ตลาดอาเมโยโกะ (Ameyoko) อยู่ที่สถานีอุเอะโนะ (Ueno Station) ขอบอกว่าที่นี่ของกินเยอะมาก มีทั้งอาหาร ขนม ผลไม้ อาหารทะเลสดๆ สำหรับของกินขึ้นชื่อในย่านนี้ก็ได้แก่ ขนมปลาไทยากิ ซอฟท์ครีม ทาโกะยากิเจ้าดังที่ต้องต่อคิวยาวสักหน่อย หรือจะเป็นข้าวหน้าปลาดิบ ขาปูยักษ์ และอีกมากมาย มีให้คุณเลือกกินได้ไม่อั้นในราคาที่ไม่แพง แถมในย่านนี้ก็ยังมีร้านค้าให้ช้อปปิ้งอีกด้วย
การเดินทางไปยัง ตลาดอาเมโยโกะ สามารถใช้บริการรถไฟได้หลายสาย มาลงที่สถานีอุเอะโนะ (Ueno Station) ใครมา JR ให้ออกทาง Central Exit แล้วข้ามถนน แต่ถ้าเป็น Metro ให้ออกทางออก 5B ขึ้นมาก็ถึงเลยค่ะ
4. ข้ามไปเที่ยวเกาะโอไดบะสุดล้ำ
ใครที่ชอบความไฮเทคและความหลากหลาย พี่เห็ดแนะนำให้ไปเที่ยวที่ โอไดบะ (Odaiba) ศูนย์รวมความทันสมัยและความบันเทิง ซึ่งเป็นเกาะที่ตั้งอยู่บนอ่าวโตเกียว โดยในสมัยเอโดะ ย่านโอไดบะได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการ ป้องกันการรุกรานของข้าศึก ต่อมาอีก 100 กว่าปี โอไดบะได้ถูกถมเพิ่มเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ตึก สำนักงาน และท่าเรือ จึงทำให้มีโรงแรม และศูนย์การค้ามาเปิดที่นี่มากมาย นับว่าเป็นย่านเมืองใหม่ของโตเกียวที่ทันสมัย มีผังเมืองสวยงาม ตึกรูปทรงแปลกๆ รถไม่เยอะและไม่วุ่นวายเท่ากับโตเกียว
โดยที่โอไดบะ มีจุดท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่มากมาย เช่น ห้าง Diver City Tokyo Plaza จัดว่าเป็นแลนด์มาร์กของโอไดบะเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีหุ่นกันดั้มขนาดเท่าของจริงสูงตั้งอยู่ รายละเอียดสมจริงทุกสัดส่วน โดยหุ่นกันดั้มสามารถปล่อยควัน เปิดไฟที่ตัว หันหัวไปมาได้ หรือจะไปถ่ายรูปกับ อาคารฟูจิทีวี อาคารรูปทรงแปลกตาที่เป็นสำนักงานใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ฟูจิทีวี สามารถเข้าชมภายในอาคารได้ฟรี นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร และหอชมวิวทรงกลมบนชั้น 25 ของตัวอาคารที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองโอไดบะได้อย่างชัดเจน ตกเย็นแนะนำให้ไปชมวิว สะพานสายรุ้ง ที่ทอดตัวผ่านอ่าวโตเกียว เชื่อมเกาะโอไดบะกับฝั่งโตเกียว เมื่อถึงกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟสวยงาม แถมที่ฝั่งโอไดบะยังเป็นที่ตั้งของ เทพีเสรีภาพ ที่ได้รับมาจากฝรั่งเศสอีกด้วย
การเดินทางไปยัง โอไดบะ สามารถนั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Shimbashi แล้วเดินออกไปที่สถานี Shimbashi ของรถไฟ Yurikamome เพื่อต่อรถไฟไปยังโอไดบะได้เลย
5. ท้าความสูงที่ Tokyo SkyTree
ใครชอบความสูง เราขอท้าให้คุณใช้เวลาเที่ยว โตเกียว 1 วัน กันที่ โตเกียวสกายทรี (Tokyo Sky Tree) หอคอยที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงถึง 634 เมตร เป็นหอกระจายสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุที่มีจุดชมวิว 2 ระดับ ได้แก่ Tembo Deck ที่ความสูง 350 เมตร และ Tembo Galleria ที่ความสูง 450 เมตร ซึ่งทั้งสองชั้นสามารถชมวิวกรุงโตเกียวได้ 360 องศา ได้มาเห็นวิวของโตเกียวในมุมสูง ถือว่าการมา ทัวร์ญี่ปุ่น ครั้งนี้คุ้มค่าแล้วล่ะค่ะ ส่วนด้านล่างของ โตเกียวสกายทรี ยังเป็น ศูนย์การค้า Tokyo Solamachi ที่มีสินค้าแบรนด์ดังให้ช้อป รวมถึงร้านขายสินค้าคาแร็กเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sumida Aquarium ที่ชั้น 5-6 ให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย ซึ่งจุดชมวิวทั้งสองชั้น และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต้องเสียค่าเข้าชมต่างหากนะคะ ใครอยากเที่ยว โตเกียวสกายทรี ให้ครบทุกจุด แนะนำว่าให้ไปแต่เช้าเลย เขาเปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถ้าไปสายอาจจะต้องต่อคิวเข้าชมเป็นชั่วโมงๆ เลยทีเดียว
การเดินทางไปยัง โตเกียวสกายทรี สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาได้ถึง 3 สาย ได้แก่ Tokyo Metro, Toei ลงที่สถานี โอชิอาเกะ และสาย Tobu SkyTree มาลงที่สถานี TOKYO SkyTree ได้เลย
6. ขอพรศาลเจ้าเมจิเพิ่มสิริมงคล
ใครเป็นสายบุญ ในโตเกียวก็มีวัดและศาลเจ้าซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนท้องถิ่นอยู่มากมาย นอกจากวัดเซ็นโซจิ หรือที่คนไทยเรียกว่า วัดอาซากุสะ แล้ว พี่เห็ดแนะนำให้ไปที่ ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในบรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น เป็นป่าใหญ่กลางกรุงโตเกียว ตั้งอยู่ใกล้กับย่านช้อปปิ้งสุดคึกคักอย่างฮาราจูกุ ซึ่งบรรยากาศภายในศาลเจ้าต่างกับความวุ่นวายของเมืองใหญ่ภายนอกอย่างสิ้นเชิง ด้านหน้าจะมี เสาโทริอิ (Torii) ขนาดใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่โลกของเทพเจ้าและเขตศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นเสาโทริอิที่ทำจากไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็คือ ถังสาเก ที่ตั้งเรียงรายเป็นแนวยาว มาถึงที่นี่แล้วก็เข้าไปขอพรกับเทพเจ้ากันได้ ซึ่งคนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรที่นี่ในวันขึ้นปีใหม่เพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี
การเดินทางไปยัง ศาลเจ้าเมจิ นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Chiyoda Line และสาย Fukutoshin Subway Line ลงที่สถานี Meiji-jingu-mae Station หรือนั่งรถไฟ JR สาย Yamanote-sen ลงสถานี Harajuku Station
7. สนุกกับธีมปาร์คมูมินแห่งแรกในญี่ปุ่น
ปิดท้ายเที่ยว โตเกียว 1 วัน ที่ไหนดี กับพิกัดสุดน่ารักกันที่ Moomin Valley Park ธีมปาร์คหมู่บ้านของครอบครัวตัวโทรลล์อย่าง มูมิน และเพื่อนๆ ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงจากโตเกียว ภายในจำลองมาจากหมู่บ้านมูมิน ซึ่งเป็นการ์ตูนเด็กของประเทศฟินแลนด์ เป็นคาแรคเตอร์สุดน่ารักที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบกันมาก
สนุกกับการเดินเล่นในหมู่บ้าน พบปะตัวละครที่ชอบอย่างใกล้ชิด พร้อมกับชมการแสดงน่ารักๆ ใครเป็นแฟนคลับมูมินต้องไม่พลาดไปถ่ายรูปในธีมปาร์คที่เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังสือนิทานกันนะคะ
การเดินทางไปยัง Moomin Valley Park จากโตเกียว ขึ้นรถไฟที่สถานี Ikebukuro ไปลงที่สถานี Hanno แล้วเดินไปทางออกฝั่ง East ขึ้นรถประจำทางที่ป้ายหมายเลข 1 ปลายทาง Metsa Village
และนี่ก็คือพิกัด เที่ยวโตเกียว แบบใครมีวันว่างๆ หนึ่งวันแต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหนดี ในมหานครสุดยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นแห่งนี้ มีสถานที่เที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวสายไหนก็สนุกได้แน่นอนค่ะ