อีกหนึ่งประเทศน่าสนใจ สวยงามด้วยมรดกโลกและสิ่งมหัศจรรย์ของโลกมากมาย ชวนให้ไปสัมผัสสักครั้งหนึ่งในชีวิต จะเป็นที่ไหนไม่ได้เลยนอกจาก ตุรกี หรือ ตุรเคีย (Türkiye) ดินแดนแห่งอารยธรรมโบราณ อุดมไปด้วยตำนานและประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพงดงามเกินคำบรรยาย ผู้คนเป็นมิตร และอาหารการกินแสนอร่อย ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าตุรกีเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน สำหรับใครที่กำลังอยากเดินทางไป ทัวร์ตุรกี ตามมาเก็บข้อมูลกับ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ทางนี้เลยค่ะ เที่ยวตุรกีเดือนไหนดี ? มีที่ไหนไม่ควรพลาดบ้าง ? ไปทำความรู้จักทุกซอกทุกมุมของประเทศตุรกีกัน
รู้จักประเทศตุรกี หรือ ตุรเคีย

ตุรกี ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนสองทวีป เนื่องจากตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย โดยพื้นที่ร้อยละ 97 ของประเทศครอบคลุมบริเวณส่วนใหญ่ของคาบสมุทรอานาโตเลียในฝั่งเอเชียตะวันตก ส่วนพื้นที่ที่เหลือนั้นอยู่ในดินแดนที่เรียกว่า เธรซ ตั้งอยู่ในฝั่งยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ มีเมืองหลวงคือ อังการา (Ankara) และมีเมืองที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางเชื่อมประเทศตุรกีทั้งสองฝั่งไว้ด้วยกันก็คือ อิสตันบูล (Istanbul) มหานครสองทวีป อดีตเมืองหลวงของตุรกี และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเมื่อปี พ.ศ. 2565 ประเทศตุรกีได้เปลี่ยนชื่อเป็น ตุรเคีย เนื่องจากต้องการให้ภาพลักษณ์ของประเทศแข็งแกร่งขึ้น และเพื่อไม่ให้ชื่อประเทศไปพ้องเสียงกับคำว่า ไก่งวง (Turkey) ในภาษาอังกฤษอีกด้วยค่ะ
ตุรกีเป็นประเทศที่มีผู้อยู่อาศัยมาตั้งแต่ยุคหินเก่า ผ่านความหลากหลายของชนหลายกลุ่มนับแต่ 2,500 ปีก่อนคริสตกาลมาแล้ว ทำให้ในปัจจุบันยังคงเหลือร่องรอยแห่งอารยธรรมโบราณ พร้อมกับที่เที่ยวทางประวัติศาตร์มากมาย จึงทำให้ตุรกีเป็นประเทศที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือนกันมากมาย
สำหรับคนไทยอย่างเราสามารถไป เที่ยวตุรกี ได้แบบ ไม่ต้องขอวีซ่า อยู่ได้ 30 วัน ถือเป็นข้อดีอันดับแรกเลยที่เราจะได้ไปสัมผัสความงดงามของเมืองสวยๆ โดยที่ไม่ต้องดำเนินการเรื่องเอกสารให้ยุ่งยาก โดยเฉพาะถ้าเลือกเดินทางกับ ทัวร์ตุรกี ดีๆ สักทัวร์ก็จะยิ่งสะดวกสบาย ได้รับความสนุกสนานและความคุ้มค่าตลอดการเดินทางเลยล่ะค่ะ
มาถึงตรงนี้ ใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยว แต่ยังเลือกไม่ถูกว่าจะ เที่ยวตุรกีเดือนไหนดี มาเก็บข้อมูลสภาพอากาศแต่ละฤดูกันค่ะ
เที่ยวตุรกีเดือนไหนดี ?

ใครกำลังวางแผนว่าจะไป เที่ยวตุรกี แต่ยังเลือกไม่ถูกว่าควรไปช่วงไหน โดยแต่ละฤดูจะมีบรรยากาศและสภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งตุรกีมีทั้งหมด 4 ฤดู ได้แก่
– ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) อุณหภูมิประมาณ 10 – 24 องศาเซลเซียส อากาศเย็นสบายกำลังดี ไม่หนาวจนเกินไป มีไฮไลต์ก็คือ ดอกทิวลิปที่บานสะพรั่งทั่วเมืองในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งประเทศตุรกีเป็นต้นกำเนิดของดอกทิวลิปด้วย ฤดูนี้อาจจะมีฝนตกบ้างในบางวัน ยังไงก็แนะนำให้พกร่มมาด้วยนะคะ
– ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) อุณหภูมิประมาณ 20 – 35 องศาเซลเซียส ใครอยากเที่ยวตุรกีในวันที่ฟ้าใส มีแดด ธรรมชาติสดชื่น แนะนำช่วงนี้เลยค่ะ แม้ว่าอากาศจะร้อนหน่อยแต่สำหรับคนไทยก็น่าจะเที่ยวได้สนุกๆ เหมาะแก่การขึ้นบอลลูนที่เมืองคัปปาโดเกีย
– ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิประมาณ 12 – 28 องศาเซลเซียส ช่วงนี้อากาศจะเริ่มกลับมาเย็นสบาย บรรยากาศเริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสีเป็นโทนเหลืองส้มดูอบอุ่นๆ และในบางวันอาจมีฝนตกบ้าง แต่บรรยากาศโดยรวมสวยงามโรแมนติกมากๆ
– ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิประมาณ -3 ถึง 16 องศาเซลเซียส ใครอยากเจอหิมะต้องช่วงนี้เลย มีหิมะโปรยปรายเบาๆ ยิ่งทำให้บรรยากาศบ้านเมืองได้ฟีลยุโรปขึ้นไปอีก อากาศก็หนาวเย็นมากๆ และยังมีสกีรีสอร์ตเปิดให้เล่นอีกด้วย

แต่ละพื้นที่ของตุรกีในแต่ละฤดูจะมีอุณหภูมิที่แตกต่างกันไป โดยแบ่งพื้นที่เป็นโซนๆ ดังนี้
– ด้านที่ติดกับชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จะมีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน นั่นก็คือ ในหน้าร้อน อากาศร้อนและแห้งแล้ง ส่วนในหน้าหนาว อากาศจะอบอุ่น และมีฝนตก
– ตอนกลางของประเทศ มีภูมิอากาศแบบภาคพื้นทวีป ซึ่งมีความแตกต่างระหว่างฤดูอย่างเห็นได้ชัด ฤดูหนาวบริเวณที่ราบสูงตอนกลางจะหนาวมาก อุณหภูมิลดลงถึง -30 ถึง -40 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ด้วยอากาศที่หนาวขนาดนี้ทำให้อาจมีหิมะปกคลุมยาวนานถึง 4 เดือนเลยล่ะค่ะ
– ฝั่งตะวันตกของประเทศ มีอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูหนาวต่ำกว่า 1 องศาเซลเซียส แต่ในฤดูร้อน อากาศจะค่อนข้างร้อนจัดและแห้งแล้ง โดยในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส
หากจะถามว่า แล้วอย่างนี้ควรไป เที่ยวตุรกีเดือนไหนดี ? จริงๆ แล้ว ตุรกีเป็นประเทศที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ แต่ช่วงน่าเที่ยวที่สุดสำหรับท่องเที่ยวก็คือ ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อน (เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน) และ ช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงในเดือนตุลาคม เพราะสภาพอากาศในช่วงนั้นจะค่อนข้างเย็นสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป ทำให้เที่ยวได้สบายๆ เลยค่ะ
ขึ้นบอลลูนที่คัปปาโดเกีย ควรไปช่วงไหน ?

หลายคนไป เที่ยวตุรกี ก็เพราะอยากไปขึ้นบอลลูนที่เมืองคัปปาโดเกียกันใช่มั้ยคะ จริงๆ แล้ว บอลลูนสามารถขึ้นได้ทุกวัน ตลอดทั้งปี แต่ต้องดูสภาพอากาศในแต่ละวัน โดยเฉพาะ แรงลม นั่นเอง ถ้าวันไหนที่ลมแรงมากๆ ก็จะไม่สามารถนำบอลลูนขึ้นได้ โดยช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายน จะมีโอกาสนำบอลลูนขึ้นได้มากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ส่วนช่วงที่ลมจะแรงมากๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งหากใครไปตุรกีกับทัวร์ที่ในโปรแกรมพาไปขึ้นบอลลูนด้วย ส่วนใหญ่จะไม่ได้รวมค่าขึ้นบอลลูนไว้ เนื่องจากต้องไปดูสภาพอากาศในวันที่เดินทางว่าสามารถนำบอลลูนขึ้นได้หรือไม่ หากขึ้นได้ก็ค่อยจ่ายค่าขึ้นบอลลูน จะสะดวกมากกว่านั่นเองค่ะ
5 ที่เที่ยวตุรกีห้ามพลาด
พอจะทราบข้อมูลที่ช่วยให้วางแผน เที่ยวตุรกีเดือนไหนดี กันแล้ว คราวนี้มาชมสถานที่เที่ยวสวยๆ ในตุรกีกันบ้างดีกว่า ดินแดนสองทวีปแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายเลยค่ะ แต่ละแห่งก็มีทัศนียภาพที่สวยงามและมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ลองมาดูกันนะคะว่าถ้าจะไป ทัวร์ตุรกี ต้องไม่พลาดไปเยือนที่เที่ยวไฮไลต์ที่ไหนบ้าง
1. มหาวิหารฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia)

ที่เที่ยวตุรกี ไฮไลต์ที่ใครๆ ก็ต้องมาเยือนก็คือ มหาวิหารฮาเกียโซเฟีย หรือ สุเหร่าโซเฟีย แห่งเมืองอิสตันบูล สถาปัตยกรรมโบราณที่โดดเด่น สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ สถานที่แห่งนี้เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา นิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมานานนับพันปี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าคอนสแตนติอุสที่ 2 ก่อนถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่าหรือมัสยิดในเวลาต่อมา ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง รวมถึงถูกจัดให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง อีกด้วย จุดเด่นก็คือ ยอดโดมขนาดมหึมากลางวิหาร และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น เป็นความงดงามที่ควรมาเยี่ยมชมสักครั้งเมื่อมาเที่ยวตุรกี
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/3H9v7cVkam9cbfTdA
2. สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque)

อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมสุดยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งเมืองอิสตันบูล ก็คือ สุเหร่าสีน้ำเงิน หรือ สุเหร่าสุลต่านอาห์เมด (Sultan Ahmed Mosque) สร้างโดยเป็นการผสมผสานศิลปะสองอารยธรรม คือ โรมัน (Byzantine) และ ออตโตมัน (Ottoman) โดยได้รับแรงบันดาลใจจากมหาวิหารฮาเกียโซเฟียที่อยู่ไม่ไกลกัน จุดเด่นก็คือ โดมกลางขนาดใหญ่ ความสูง 43 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 23.5 เมตร ล้อมรอบด้วยโดมย่อยและซุ้มโค้ง มีหออะซานมากถึง 6 ต้น ด้านในตกแต่งด้วยกระเบื้องและกระจกโทนสีน้ำเงินสลับกับสีต่างๆ จนเกิดเป็นความสวยงาม สุเหร่าแห่งนี้ได้เปิดให้ผู้คนเข้ามาละหมาดและเยี่ยมชมตลอดทั้งปี ที่สำคัญคือเข้าชมฟรี แต่จะต้องแต่งกายสุภาพ และสำรวมด้วยนะคะ
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/7pMYL6jfzo9rn1cW6
3. ปามุคคาเล (Pamukkale)

ปามุคคาเล (Pamukkale) ตามความหมายในภาษาตุรกีแปลว่า “ปราสาทปุยฝ้าย” (Cotton Castle) สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งในประเทศตุรกีที่หลายๆ คนรู้จักกันดี ลักษณะเป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่อุดมไปด้วยแร่หินปูน อุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ไหลรินลงมาจากภูเขา เอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกับเมืองโบราณ Hierapolis ในปี ค.ศ.1988
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/SX8tSsw7eHLMW62U6
4. คัปปาโดเกีย (Cappadocia)

คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอานาโตเลีย ในบริเวณตอนกลางของประเทศตุรกี เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ในการ ทัวร์ตุรกี สำหรับนักท่องเที่ยวที่ใฝ่ฝันถึงการขึ้นบอลลูนที่ไม่เหมือนที่ไหน ที่นี่เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่สำคัญ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในอดีตที่ทอดยาวจากตุรกีไปจนถึงประเทศจีน ที่นี่เป็นพื้นที่ที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จนเกิดเป็นภูมิประเทศที่น่าพิศวง เต็มไปด้วยหินรูปทรงแปลกตามากมาย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สวยงาม แน่นอนว่ากิจกรรมท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกก็คือ การขึ้นบอลลูน โดยค่าขึ้นบอลลูนจะแตกต่างไปตามแต่ละบริษัทที่เป็นผู้นำเที่ยว มีตั้งแต่ประมาณ 150-280 USD บอลลูนจะพาขึ้นไปที่ความสูงประมาณ 1,000 ฟุต ได้ชมวิวสวยๆ พร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้น ได้ประสบการณ์ใหม่ที่ประทับใจแน่นอน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/mcRAvwNAsskRXPB5A
5. เมืองโบราณเอฟฟิซุส (City of Ephesus)

เมืองโบราณเอเฟซุส เป็นเมืองกรีกโบราณที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของอานาโตเลียในจังหวัดอิซเมียร์ ประเทศตุรกี เป็นเมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีที่สุดเมืองหนึ่ง ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สิ่งก่อสร้างที่คงเหลือให้ได้ชมในปัจจุบันส่วนใหญ่มีอายุนับแต่สมัยจักรพรรดิออกุสตุส ราวศตวรรษที่ 11 เป็นต้นมา และล้วนเป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติกที่มีความอ่อนหวานและประณีตงดงาม ภายในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ของเมืองโบราณเอเฟซุสนี้จะได้เห็นสถานที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรงอาบน้ำ โรงละครโบราณ หอสมุดเซลซุส และจุดบูชาเทพเจ้าต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวตุรกีค่ะ
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/qz6To91pSNeVXZxV9
แต่ละที่เที่ยวในตุรกีสวยๆ ทั้งนั้นเลย ใครกำลังอยากออกไปเปิดประสบการณ์การเดินทางกับที่เที่ยวใหม่ๆ ที่คุ้มค่าในอีกรูปแบบหนึ่งร่วมกับครอบครัว ก็เริ่มวางแผนกันได้เลยค่ะว่าจะไป เที่ยวตุรกีเดือนไหนดี พี่เห็ดรับประกันว่าจะได้สัมผัสกับอารยธรรมโบราณ ตื่นตาตื่นใจกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และประทับใจตลอดการเดินทางในทริปตุรกีอย่างแน่นอนค่ะ