Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

เที่ยว ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน พาทัวร์ทุกโซน ข้อมูลครบ เที่ยวตามได้เลย

ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน เป็นหนึ่งในสวนสนุกยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า ในเขตโคโนฮานะ ซึ่งใกล้กับตัวเมืองมาก นั่งรถไฟไม่ถึง 15 นาทีก็พร้อมผจญภัยในโลกแห่งความสนุกได้ทั้งวัน แต่ละโซนตกแต่งอลังการสมจริงเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนัง แถมยังอัดแน่นด้วยเครื่องเล่นมากมาย ตั้งแต่เครื่องเล่นเบาๆ ไปจนถึงเครื่องเล่นสุดหวาดเสียว ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มาสนุกกันได้ทุกวัย ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยว วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาไปเก็บข้อมูลว่าแต่ละโซนมีไฮไลต์อะไรใหม่ หรือกิจกรรมสนุกๆ อะไรบ้าง พร้อมรวมทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนออกเดินทาง พร้อมแล้วไปดูกันเลย

ทำความรู้จักสวนสนุก Universal Studios Japan

ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน
Credit : gowithstock / shutterstock.com

ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน ( Universal Studios Japan หรือ USJ ) เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ. 2001 ถือเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลแห่งแรกในเอเชีย และแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ในแต่ละปีจึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ต่ำกว่า 12 ล้านคน เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กอันดับต้นๆ ของคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ภายในจัดเต็มด้วยโซนต่างๆ ถึง 10 โซน และเครื่องเล่นมากกว่า 60 ชนิด ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์และการ์ตูนชื่อดังต่างๆ เช่น Jurassic Park, Harry Potter, Minions นอกจากนี้ยังมีโชว์การแสดงสุดตระการตา และเหล่าคาแรกเตอร์ที่ออกมาทักทายให้ถ่ายรูปแบบใกล้ชิด รวมถึงร้านอาหารในธีมต่างๆ ยิ่งถ้าใครเป็นสายชอบสะสม บอกเลยว่ามีของน่ารักๆ ให้ซื้อเพียบ ตั้งแต่ถังป๊อบคอร์นสุดคิวท์ ไปจนถึงของใช้จุกจิกต่างๆ เห็นแล้วอดใจไม่ไหวอยากจะหิ้วกลับบ้านให้มดเลย

10 โซนเครื่องเล่นห้ามพลาดในยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน

1. Hollywood
ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน
Credit : jannoon028 / shutterstock.com

หลังจากผ่านทางเข้าสวนสนุก ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน มา ทุกคนจะได้พบกับโซน Hollywood เป็นโซนแรก ซึ่งจำลองบรรยากาศมาจากถนน Hollywood Boulevard ของอเมริกา ในช่วงทศวรรษ 1930 – 1940 มีอาคารที่มาจากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Pretty Woman และ Beverly Hills Cop รวมถึงร้านค้ามากมาย และเครื่องเล่นสุดหวาดเสียว เช่น Hollywood Dream – The Ride รถไฟเหาะสูง 43 เมตร ที่มาพร้อมลำโพงทุกที่นั่ง ให้เลือกฟังเพลงที่ตัวเองชอบได้ หากใครยังรู้สึกว่าชิลไป ลอง Hollywood Dream – The Ride: Backdrop รถไฟเหาะที่วิ่งแบบถอยหลัง พร้อมจังหวะทิ้งดิ่งเหมือนโดนกระชากวิญญาณ งานนี้ได้กรี๊ดจนสุดเสียงแน่นอน

2. Super Nintendo World 
ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน
Credit : Usa-Pyon / shutterstock.com

ถัดมาที่ Super Nintendo World โซนที่ร่วมมือกันระหว่าง Universal Studios Japan และบริษัทเกม Nintendo โดยมีมาริโอ้เป็นตัวละครหลัก เปิดตัวในปี ค.ศ. 2021 ซึ่งถือเป็นโซน Super Nintendo World แห่งแรกของโลก จุดเด่นของโซนนี้คือการดีไซน์พื้นที่แบบไล่ระดับเป็นชั้นๆ เหมือนในเกมมาริโอ้ และตกแต่งด้วยไอเทมที่คุ้นตา ไม่ว่าจะเป็น ท่อสีเขียว, บล็อกเหรียญ, เห็ดโท้ดสีแดง, กระดองเต่า หรือต้นไม้กินคน นอกจากนี้ยังมี ปราสาทเจ้าหญิงพีช รวมถึงเครื่องเล่นสนุกๆ อย่าง Mario Kart : Koopa’s Challenge เครื่องเล่นแนว AR (Augmented Reality) ที่เราต้องสวมแว่นตาเพื่อไปสัมผัสประสบการณ์แข่งรถเหมือนในเกม Mario Kart และ Yoshi’s Adventure นั่งรถไฟชมวิวอาณาจักรเห็ดจากมุมสูง เข้ามาในโซนนี้จะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในเกมมาริโอ้เลยค่ะ

3. Minion Park 
ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน
Credit : Usa-Pyon / shutterstock.com

มาเยือนอาณาจักรของเหล่ามินเนี่ยนที่ Minion Park กันบ้าง เป็นโซนมินเนี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมินเนี่ยนตกแต่งอยู่ทั่วทุกบริเวณ ร้านอาหารต่างๆ ก็จำหน่ายเมนูในธีมมินเนี่ยนด้วย เช่น คุกกี้แซนด์วิชและโดนัทรูปมินเนี่ยน ป๊อปคอร์นกลิ่นกล้วย เครื่องเล่นโซนนี้จะไม่หวาดเสียวมาก เด็กๆ เล่นได้ เช่น Despicable Me: Minion Mayhem เครื่องเล่น 3D พร้อมจอโดมขนาดใหญ่ พานั่งยานแคปซูลออกไปผจญภัยในฉากต่างๆ และเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวกลางปี ค.ศ. 2025 อย่าง Illumination’s Villain – Con Minion Blast ที่ทุกคนจะได้ถือปืน E-Liminator X ไปทำภารกิจสะสมคะแนนร่วมกับเหล่ามินเนี่ยนและวายร้ายสุดป่วน

4. The Wizarding World of Harry Potter
ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน
Credit : Jellygoround / shutterstock.com

มาสนุกกันต่อในโลกเวทมนตร์สุดอลังการที่โซน The Wizarding World of Harry Potter เป็นหนึ่งในโซนที่สวยงามที่สุด จำลองฉากต่างๆ มาแบบสมจริงมาก ทั้งปราสาทฮอกวอตส์, หมู่บ้านฮอกส์มี้ด (Hogsmeade Village), ร้านไม้กายสิทธิ์โอลลิแวนเดอร์ (Ollivanders), ร้านเกมกลวิเศษวิสลีย์ (Weasleys’ Wizard Wheezes), ร้านขนมฮันนี่ดุกส์ (Honeydukes), ไปรษณีย์นกฮูก แค่ได้มาเดินชมบรรยากาศก็คุ้มแล้ว! เครื่องเล่นที่ไม่ควรพลาดคือ Harry Potter and the Forbidden Journey ขี่ไม้กวาดผจญภัยแบบ 3D พร้อมเอฟเฟกต์ต่างๆ แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นความร้อนจากมังกร หรือความเย็นเยือกจากผู้คุมวิญญาณ และ Flight of the Hippogriff ขี่ฮิปโปกริฟฟ์ชมวิวรอบปราสาทฮอกวอตส์ ผ่านแปลงฟักทองยักษ์ของแฮกริดด้วย ก่อนกลับอย่าลืมชิม บัตเตอร์เบียร์ ด้วยนะ ดื่มหมดแล้วสามารถนำแก้วกลับบ้านได้เลย!

5. Universal Wonderland
Credit : kbxd.info

Universal Wonderland เป็นโซนที่รวมคาแรกเตอร์ชื่อดังจากหลายๆ เรื่อง มีพื้นครอบคลุมกว่า 30,000 ตารางเมตร โดยแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ Snoopy Studios, Hello Kitty Fashion Avenue และ Sesame Street Fun World พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในร่ม จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศ เครื่องเล่นก็จะเป็นแบบเบาๆ น่ารักๆ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก โดยมีให้เลือกกว่า 30 ชนิด เช่น Elmo’s Go – Go Skateboard สเกตบอร์ดขนาดยักษ์ที่ขึ้นลงเนินพร้อมหมุนไปมาแบบ 360 องศา และ Hello Kitty’s Cupcake Dream นั่งในถ้วยคัพเค้กหลากสีสันที่น่ารักจนใจละลาย และหมุนวนไปรอบๆ พร้อมกับเสียงเพลง

6. New York
Credit : gltjp.com

ใครสนุกกับเครื่องเล่นมาแบบจัดเต็มแล้วเริ่มจะหิว หรืออยากพักสักหน่อย ต้องมาที่โซน New York เลยค่ะ เป็นโซนที่จำลองบรรยากาศแสนคลาสสิกของนครนิวยอร์กในช่วงยุค 1930 ตั้งแต่ถนน Delancey ที่คึกคัก ไปจนถึง Fifth Avenue สุดหรู มีรถแท็กซี่สีเหลืองจอดอยู่อย่างโดดเด่น เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเช็กอินกัน รายล้อมอาคารอิฐย้อนยุคและตรอกซอกซอยที่มาจากฉากในภาพยนตร์ชื่อดัง โซนนี้จะมีร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารมากมาย เช่น Park Side Grille ร้านอาหารอิตาเลียน ที่มีเมนูเด็ดอย่างสเต๊กเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ และ SAIDO ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่มีเมนูซูชิ ซาชิมิ เทมปุระ และข้าวหน้าต่างๆ

7. San Francisco
Credit : castel.jp

อีกหนึ่งโซนในสวนสนุก Universal Studios Japan ที่เหมาะจะฝากท้องยามหิวคือ San Francisco ซึ่งจำลองมาจากเมืองท่าซานฟรานซิสโก ทางชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา โดยมีแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง Fisherman’s Wharf และ Chinatown พร้อมมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเพียบ! เดิมทีโซนนี้ก็เคยมีเครื่องเล่นเหมือนกัน แต่ปิดให้บริการไปในปี ค.ศ. 2023 จึงเหลือเพียงร้านอาหาร กับบรรยากาศริมน้ำที่แสนผ่อนคลายให้มาเติมพลังกัน ไฮไลต์คือร้าน Lombard’s Landing ซึ่งจะเปลี่ยนธีมไปเรื่อยๆ เช่น Detective Conan, One Piece, Sanji’s Pirates Restaurant และแต่ละธีมก็จะมีช่วงเวลาที่จำกัดด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นมาแล้วห้ามพลาด อาจจะเจอเซอร์ไพรส์อะไรใหม่ๆ ก็ได้

8. Jurassic Park
Credit : wdwnt.com

มาสนุกกันต่อในโซน Jurassic Park ที่จะพาทุกคนผจญภัยในดึกดำบรรพ์ ท่ามกลางบรรยากาศของป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยพืชเขตร้อน และไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ที่สามารถถ่ายรูปได้แบบใกล้ชิด นอกจากนี้ยังเป็นโซนฮอตฮิตสำหรับคนชอบเครื่องเล่นแบบหวาดเสียวอีกด้วย เพราะมี The Flying Dinosaur รถไฟเหาะที่โฉบขึ้นลงราวกับนกยักษ์เทอราโนดอน ทั้งทิ้งดิ่ง หมุนตีลังกา ลอดอุโมงค์ มีครบทุกแบบ และ Jurassic Park – The Ride เครื่องเล่นล่องแก่งที่พุ่งดิ่งลงจากความสูง 25.9 เมตร พร้อมละอองน้ำที่สาดกระเซ็นไปทั่ว ใครไม่อยากเปียก ทางสวนสนุกมีเสื้อกันฝนขายด้วยค่ะ

9. Amity Village 
Credit : osaka.com

อีกหนึ่งโซนที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กันคือ Amity Village ซึ่งจำลองฉากหมู่บ้านชาวประมงที่โดนฉลามโจมตีในเรื่อง Jaws โดยมีไฮไลต์คือมุมถ่ายภาพคู่กับฉลามตัวใหญ่ที่กำลังแยกเขี้ยวใส่กล้อง และเครื่องเล่นชื่อเดียวกับภาพยนตร์อย่าง Jaws ที่พาล่องเรือในแม่น้ำที่ฉลามยักษ์พร้อมจะโผล่ขึ้นมาโจมตีได้ทุกเมื่อ เอฟเฟกต์จัดเต็มทั้งเสียงระเบิด เปลวไฟ น้ำกระเซ็น แอบกระซิบว่าเครื่องเล่นนี้มีแค่ที่ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน เท่านั้น ที่อื่นไม่มี มาทั้งทีอย่าลืมมาเล่นกันนะ

10. WaterWorld
Credit : suikachoko.wordpress.com

ปิดท้ายกันด้วย WaterWorld โซนที่จะได้พบกับการแสดงโชว์แอคชั่นสุดตื่นเต้น ซึ่งอิงมาจากภาพยนตร์เรื่อง Waterworld ที่เข้าฉายในปี ค.ศ. 1995 โดยมีฉากหลังเป็นเมืองลอยน้ำแห่งอนาคต ที่ถูกสร้างขึ้นหลังจากโลกทั้งใบถูกน้ำท่วมจนมิด การแสดงแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที จัดขึ้นประมาณ 2 – 4 รอบต่อวัน แต่ละฉากบอกเลยว่าดุเดือดมาก ทั้งขี่เจ็ตสกีไล่ลา ปาระเบิดไฟลุกท่วม ยิงปืนสาดกระสุนกันแบบไม่ยั้ง ชวนให้ลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ ใครไม่อยากเปียก แนะนำให้เลือกที่นั่งบนๆ ค่ะ และถ้าใครอยากมาชมโชว์นี้ก็อย่าลืมเช็กตารางเวลาแสดงด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดโชว์มันส์ๆ

ขบวนพาเหรด และการแสดง

อีกหนึ่งไฮไลต์ของการมาเที่ยว ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน คือการชมโชว์ที่มีจัดขึ้นทุกวัน แต่จะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา เช่น

1. NO LIMIT! Summer Splash Parade
Credit : wdwnt.com

NO LIMIT! Summer Splash Parade เป็นโชว์ขบวนพาเกรดรอบกลางวัน ซึ่งจะจัดในช่วงหน้าร้อน ประมาณเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม โดยมีเหล่าตัวการ์ตูนชื่อดังมากมาย เช่น ตัวละครจาก Super Mario, Pokemon, Minions, Hello Kitty มาสร้างสีสันและสาดน้ำใส่นักท่องเที่ยวจนชุ่มฉ่ำตลอดเส้นทางแบบ 360 องศา แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะยิงเราได้ฝ่ายเดียวเท่านั้นนะ เพื่อนๆ สามารถซื้อปีนฉีดน้ำมาสู้กลับได้ด้วย

2. Hahaha! Halloween Party และ Halloween Horror Nights
Credit : corriente.jp

ในช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน จะมีการจัดงานปาร์ตี้ฮาโลวีนตลอดทั้งวัน โดยในช่วงกลางวันจะเป็นงาน Hahaha! Halloween Party มีเหล่าตัวการ์ตูนในชุดฮาโลวีนผลัดกันออกมาพบปะกับผู้ชมเป็นรอบๆ และโชว์สุดพิเศษจากดีเจปิกาจู ดีเจเก็งกา และเหล่าโปเกม่อนสุดน่ารัก พอฟ้าเริ่มมืดจะเข้าสู่ช่วง Halloween Horror Nights เหล่าซอมบี้จะออกมาอาละวาดไปทั่วสวนสนุก พร้อมโชว์การแสดงอีกมากมาย เช่น Zombie De Dance, HamiKuma’s Sweet Scream Party เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบ้านผีสิงเปิดให้บริการเฉพาะช่วงนี้ด้วย บอกเลยว่าหลอนสุดๆ ใครอยากพิสูจน์ มาลองได้เลย

3. Universal Christmas Joy
Credit : travelcaffeine.com

ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนมกราคม ทั้งสวนสนุกจะอบอวลไปด้วยบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส มีการตกแต่งและประดับไฟระยิบระยับไปทั่วทุกมุม รวมถึงการแสดงโชว์ Light Up the Night: Christmas Celebration จากเหล่าคาแรกเตอร์ชื่อดัง พร้อมพลุสุดอลังการ นอกจากนี้ที่ปราสาทฮอกวอตส์ ยังมีการแสดง Hogwarts Magical Night – Winter Magic โชว์แสงสีเสียงบนตัวปราสาท ท่ามกลางหิมะโปรยปรายด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษอื่นๆ ที่จัดขึ้นเฉพาะช่วงคริสต์มาสอีกด้วย

ที่พัก

Credit : usj.co.jp

แม้ว่า ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน จะเดินทางง่ายมากๆ แต่หากใครอยากพักใกล้ๆ แนะนำให้เลือกที่พักที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน ซึ่งมีอยู่ 7 แห่งด้วยกัน คือ

1. Oriental Hotel Universal City อาหารเช้าจัดเต็ม มีให้เลือกหลากหลายทั้งสไตล์อเมริกัน และอาหารท้องถิ่นของโอซาก้า
2. The Singulari Hotel & Skyspa at Universal Studios Japan อยู่ใกล้กับสถานี Universal City เดินทางสะดวก
3. The Park Front Hotel at Universal Studios Japan เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้สวนสนุกมากที่สุด
4. Hotel Kintetsu Universal City มีห้องพักธีม Sesame Street
5. Hotel Keihan Universal Tower เป็นอาคารที่สูงที่สุดในย่านนี้ ออกแบบในธีมเรือสำราญสุดหรูและมหาสมุทร
6. Hotel Universal Port มีร้านค้ายูนิเวอร์แซลสตูดิโอสโตร์ (Universal Studio Store) อยู่ภายในโรงแรม และมีห้องพักธีมมินเนี่ยนด้วย
7. Hotel Universal Port Vita เปิดให้บริการเมื่อปี ค.ศ. 2018 มีห้องพักให้เลือก 14 แบบ ที่สามารถรองรับได้ทุกความต้องการ

แต่ละโรงแรมตั้งอยู่ใกล้สวนสนุกแบบเดินถึงได้ในไม่กี่นาที ทำให้ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ เที่ยวแบบไม่เหนื่อยมาก แถมบางโรงแรมยังสามารถซื้อบัตรเข้าสวนสนุก หรือตรวจสอบเวลารอคิวเครื่องเล่นต่างๆ จากที่โรงแรมได้อีกด้วย

การเดินทาง

– เดินทางโดยรถไฟ : นั่งรถไฟ JR Loop Line จากสถานี Umeda หรือ Osaka ไปลงที่สถานี Nishikujo ใช้เวลาประมาณ 6 นาที จากนั้นเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟ JR Yumesaki Line ไปลงที่สถานี Universal City ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
– เดินทางโดยรถบัส : มีรถบัสหลายสายให้บริการจากสนามบิน Kansai International Airport ไปลงที่สวนสนุก เช่น รถบัสของสนามบิน, Hanshin Bus, Kintetsu Bus ใช้เวลาประมาณ 60 – 70 นาที

Credit : happyell.co.jp

ข้อมูลเพิ่มเติม

เวลาเปิดปิด : 08.00 – 22.00 น.
** เวลาเปิด – ปิดอาจมีความแตกต่างกันในแต่ละวัน สามารถตรวจสอบได้ >> ที่นี่
ค่าเข้าชม :
– ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) 8,900 เยน
– เด็ก (อายุ 4 – 11 ปี) 5,700 เยน
– ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปี ขึ้นไป) 8,000 เยน
เว็บไซต์ : https://www.usj.co.jp/web/en/us
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/dZK2kEHCrk6Qo92A7

ใครกำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นที่เมืองโอซาก้า ก็อย่าลืมปักหมุดไปเที่ยวสวนสนุก ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ เจแปน กันด้วยนะคะ ที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน ตลอดทั้งปี แต่หากอยากเลี่ยงคนเยอะ แนะนำให้มาวันธรรมดา คนจะน้อยกว่าช่วงวันหยุด และที่สำคัญอย่าลืมจองตั๋วไปล่วงหน้าด้วย แต่ถ้าใครอยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบสบายๆ ไม่ต้องวางแผนเอง กดจอง ทัวร์ญี่ปุ่น ยูนิเวอร์แซล ไปกับมัชรูมทราเวลได้เลย พี่เห็ดมีโปรแกรมสนุกๆ ที่พาเช็กอินทั้งสวนสนุกและแลนด์มาร์กชื่อดังอีกมากมาย ได้ประสบการณ์พิเศษไม่เหมือนใครแน่นอน


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง