@MushroomTravel
ฟุกุโอกะ (Fukuoka) อีกหนึ่งจังหวัดน่าเที่ยวบนเกาะคิวชู ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เป็นจังหวัดใหญ่ที่การเดินทางจากไทยก็แสนสะดวกสบาย เพราะมีสายการบินที่บินตรงจากไทยไปยังฟุกุโอกะ ไม่ว่าจะเป็น การบินไทย, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ รวมถึงเวียดเจ็ทแอร์ เลือกเดินทางได้หลากหลาย สำหรับใครที่สนใจอยากไป ทัวร์ญี่ปุ่น ที่เมืองฟุกุโอกะ วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มี 12 ที่เที่ยว ฟุกุโอกะ สถานที่ยอดฮิต ที่ไม่ควรพลาด มาแนะนำ มาดูกันค่ะว่ามีที่ไหนบ้าง
1. วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)
มาเริ่มต้นปักหมุด ที่เที่ยว ฟุกุโอกะ ไปสักการะพระใหญ่กันที่ วัดนันโซอิน วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าอันเงียบสงบในเมืองซาซากุริ (Sasaguri) ซึ่งเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเมื่อไม่นานมานี้เอง ความน่าสนใจของวัดแห่งนี้คือเป็นที่ประดิษฐาน พระนอนองค์ใหญ่ สร้างจากทองสัมฤทธิ์ มีความยาว 41 เมตร สูง 11 เมตร และมีน้ำหนักถึง 300 ตัน จัดว่าเป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดเทียบเท่ากับเทพีเสรีภาพเลยทีเดียว สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1995 โดยมีสถาปัตยกรรมแบบเดียวกับพระใหญ่ที่เมืองนาราและคามาคุระ
โดยทั่วไปพระพุทธรูปในญี่ปุ่นจะสร้างเป็นแบบนั่ง แต่ที่วัดนันโซอินสร้างเป็นแบบนอน เนื่องจากได้รับพระสารีริกธาตุมาจากพม่า ทางวัดจึงได้สร้างพระนอนซึ่งเป็นปางที่นิยมในพม่าขึ้นมาเพื่อเป็นที่เก็บรักษา โดยที่มือขององค์พระนอนจะมีเชือกผูกเชื่อมต่อมาที่จุดสักการะ เพื่อให้ผู้คนขอพรและเสมือนว่าได้สัมผัสมือขององค์พระพทธรูป เป็นการรับพลังผ่านเชือกเส้นนี้นั่นเอง
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย JR Sasaguri จากสถานี Hakata ลงที่สถานี Kido Nanzoin-mae เดินต่อประมาณ 5 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/Qq7LQE5pEJW9Um4h7?coh=178572&entry=tt
2. ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็มมังกู (Dazaifu Tenmangu)
ต่อกันที่ ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็มมังกู ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของฟุกุโอกะ ศาลเจ้าแห่งนี้โด่งดังเรื่องการขอพรให้สมหวังในด้านการเรียน จึงจะเห็นเหล่าบรรดานักเรียนแวะเวียนมาขอพรที่นี่เป็นประจำ นอกจากจะดังในการขอพรเรื่องการเรียนแล้ว ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ศาลเจ้าดาไซฟุ ยังเป็นสถานที่ชมดอกบ๊วยที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้บริเวณทางเข้าจะคึกคักไปด้วยร้านค้าต่างๆ ใครไป ทัวร์ฟุกุโอกะ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ห้ามพลาดแวะชิมขนมโมจิย่างไส้ถั่วแดงร้อนๆ ใหม่สดจากเตา แนะนำว่าให้กินทันทีจะอร่อยสุดๆ ไปเลย
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟมาลงที่ สถานี Dazaifu จากนั้นเดินต่อประมาณ 5 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/QV683NtHWmbk7GLm8
3. สวนคาวาจิ ฟูจิ การ์เด้น (Kawachi Fuji Garden)
พาคุณไปชมดอกวิสเทอเรีย หรือดอกฟูจิ ในเฉดสีที่แตกต่างกัน ส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ สวยงามราวกับสรวงสวรรค์ที่ สวนคาวาจิ ฟูจิ การ์เด้น ในเมืองคิตะคิวชู เป็น ที่เที่ยว ฟุกุโอกะ ที่ต้องมาเยือนให้ได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม เพราะที่นี่มี อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย ที่บานสะพรั่งสวยงาม ทำให้ช่วงเวลานี้จะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่พากันมาชมความงามของดอกไม้ รวมถึงโดมดอกวิสทีเรียขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นจากต้นวิสทีเรียเพียงต้นเดียว ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นแห่งหนึ่งอีกด้วย
การเดินทาง : จากสถานี JR Hakata (Fukuoka) ขึ้นรถไฟสาย Kagoshima Main Line ลงที่สถานี JR Yahata จากนั้นต่อรถบัส Nishitetsu สาย 56 ลงที่ป้าย Kawachi Elementary School เดินอีก 10-15 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/CUE7Jxj8yNsNixHD8
4. หินคู่แต่งงาน ซากุระอิ ฟุตะมิกะอุระ (Sakurai Futamigaura)
อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดนิยมในฟุกุโอกะก็คือ หินคู่แต่งงาน Sakurai Futamigaura เป็นโขดหินขนาดใหญ่ที่อยู่คู่กันกลางทะเลและผูกติดกันด้วยเชือก เหมือนเป็นหินคู่สามีภรรยา คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรเรื่องเนื้อคู่ ขอให้ได้แต่งงาน และบริเวณใกล้ชายหาดจะมีเสาโทริอิสีขาวตั้งอยู่ นอกจากการมาขอพรให้สมหวังเรื่องความรักแล้ว วิวทิวทัศน์บริเวณนี้ยังสวยงามมาก โดยเฉพาะช่วงเย็นๆ ที่ดวงอาทิตย์จะค่อยๆ ตกและอยู่ตรงกลางระหว่างหินคู่แต่งงานพอดี มาเดินเล่นถ่ายรูปกันได้เลย
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Chikuzenmaebaru Station ให้ขึ้นรถบัส Showa Bus สาย Nogita Line ที่ป้าย Maebarueki-Kitaguchi ไปลงที่ป้าย Imuta และเดินต่ออีกประมาณ 30 นาที
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/sRXtoNVkPy8gg3Z67
5. วัดโทโชจิ (Tochoji Temple)
วัดโทโชจิ หรือเรียกอีกชื่อว่า นานกาคุซัน (Nangakuzan) วัดเก่าแก่ในตัวเมืองฟุกุโอกะ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 806 โดยพระที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นนามว่า โคโบไดชิ (Kobo-Daishi) และเป็นวัดหลักของศาสนาพุทธนิกาย ชินกอน (Shingon) ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระใหญ่ หรือเรียกว่า ฟุกุโอกะ ไดบุสสึ (Fukuoka Daibutsu) พระพุทธรูปนั่งที่ทำจากไม้แกะสลัก มีความสูง 10.8 เมตร และมีน้ำหนักมากกว่า 30 ตัน ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปนั่งทำจากไม้ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น โดยใช้เวลาสร้างนานกว่า 4 ปี นอกจากนี้ในบริเวณวัดยังมีเจดีย์สีแดงสูง 5 ชั้น เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของวัดแห่งนี้ด้วย
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี Gion
แผนที่ : https://goo.gl/maps/x7HF8NC6e3uCXhjh8
6. ถ่ายรูปเพลิดเพลินกับ TeamLab Forest Fukuoka
คนชอบถ่ายรูป หรืออยากได้ที่เที่ยวชิคๆ อาร์ตๆ ต้องไปที่ TeamLab Forest Fukuoka พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอลสุดล้ำ ที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มศิลปะระดับโลก teamLab เป็นจุดยอดนิยมที่สามารถถ่ายรูปไปพร้อมกับเพลิดเพลินกับงานศิลปะได้ พาทุกคนไปสัมผัสกับผืนป่าที่จัดแสดงในรูปแบบแสงสีเสียงที่เคลื่อนไหวได้ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนป่า Catch and Collect ที่สามารถใช้สมาร์ทโฟนของเราเพื่อสำรวจ สังเกตสัตว์ต่างๆ และสร้างคอลเลกชันของตัวเองได้ และ โซนป่าแห่งการออกกำลังกาย เป็นพื้นที่สามมิติที่สามารถดื่มด่ำไปกับโลกที่มีการโต้ตอบจากการเดินและการสัมผัส ถ้ามาเที่ยวฟุกุโอกะอย่าลืมแวะไปชมศิลปะแบบสนุกๆ กันได้ เหมาะสำหรับทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แต่ละโซนถ่ายรูปสวยมากจ้า
การเดินทาง : teamLab Forest Fukuoka ตั้งอยู่ที่ตึก BOSS E･ZO FUKUOKA ชั้น 5 ข้างๆ Fukuoka PayPay Dome
– ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี Tojinmachi Station และเดินต่อประมาณ 15 นาที
– ขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง Fukuoka Tower มาลงที่ PayPay Dome/Fukuoka Medical Center
ค่าเข้าชม : เช็คได้ที่ https://www.teamlab.art/e/forest/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/Y7WwmfaLBrt7qk5p7
7. ฟุกุโอกะทาวเวอร์ (Fukuoka Tower)
ไป ทัวร์ญี่ปุ่น ชมวิวเมืองฟุกุโอกะมุมสูงกันที่ ฟุกุโอกะทาวเวอร์ ที่นอกจากจะเป็นแลนด์มาร์คอันโดดเด่นของเมืองแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองฟุกุโอกะอีกด้วย เราสามารถชมวิวเมืองได้รอบทิศทาง 360 องศา ซึ่งจะต้องซื้อตั๋วขึ้นไปชมวิวกันที่ความสูง 123 เมตร จากความสูงทั้งหมด 234 เมตร ยิ่งช่วงกลางคืนจะยิ่งสวยโรแมนติกเป็นพิเศษ มองเห็นวิวเมืองฟุกุโอกะท่ามกลางแสงไฟ ถ้าได้มากับคนรู้ใจนี่ฟินสุดๆ ไปเลย
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี Nishijin เดินต่อประมาณ 20 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/wbvJSrhnDK1s58g69
8. ถ่ายรูปกับกันดั้มยักษ์ที่ศูนย์การค้า LaLaport Fukuoka
สาวกกันดั้มถ้าไปเที่ยวฟุกุโอกะต้องไม่พลาด ไปถ่ายรูปเช็คอินกับหุ่นกันดั้มขนาดเท่าของจริงกันที่ด้านหน้าของศูนย์การค้า LaLaport Fukuoka เป็นสถานที่จัดแสดงกันดั้ม RX-93ff v Gundam หรือเรียกสั้นๆ ว่า v Gundam (นิวกันดั้ม) เป็นพิกัดหุ่นยนต์กัมดั้มยักษ์แห่งใหม่ในญี่ปุ่น มีความสูงประมาณ 24.8 เมตร ซึ่งขนาดใหญ่กว่ากันดั้มที่โอไดบะในโตเกียวและที่โยโกฮาม่าอีกด้วย นอกจากกันดั้มขนาดเท่าของจริงแล้ว ที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ยังมี กันดั้มพาร์ค แหล่งรวมกันดั้มรุ่นต่างๆ มากมาย รวมถึงรุ่นหายากแบบลิมิเต็ดสุดๆ จัดแสดงให้แฟนๆ กันดั้มได้ชมอีกด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Takeshita เดินต่ออีก 9 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/YfoGiGSV5SMK11br6
9. ย่านเทนจิน (Tenjin)
นอกจากที่เที่ยวสวยๆ ไปแล้ว มา ทัวร์ฟุกุโอกะ ทั้งที ต้องไม่พลาดการช้อปปิ้งด้วยนะ! พี่เห็ดจะพาไปช้อปปิ้งกันที่ ย่านเทนจิน หรือย่านดาวน์ทาวน์ของฟุกุโอกะ เต็มไปด้วยห้างใหญ่และร้านค้าต่างๆ ให้เลือกช้อปกันแบบเพลินๆ รวมถึงร้านอาหารหลากหลายเมนูความอร่อย อย่าลืมแวะไปเดินช้อปปิ้ง สัมผัสกลิ่นอายความคลาสสิกบนถนนที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองที่ ถนนคนเดินคาวาบาตะ (Kawabata) รับรองว่าช้อปเพลินจนลืมเวลา หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศลงไปช้อปใต้ดิน ที่บริเวณทางเดินเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟเทนจินที่ยาวกว่า 600 เมตรก็สนุกไปอีกแบบ นักช้อปตัวยงห้ามพลาดเลยค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tenjin
แผนที่ : https://goo.gl/maps/RY7QFJ5j4UgXt8zh9
10. คาแนลซิตี้ฮากาตะ (Canal City Hakata)
ยังคงวนเวียนอยู่กับการช้อปปิ้งกันต่อ จะพาไปช้อปในสถานที่สวยๆ ช้อปสนุก ถ่ายรูปเพลิน ที่นี่คือ คาแนลซิตี้ฮากาตะ ที่นอกจากจะมีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าแบรนด์ดังต่างๆ แล้ว ยังมีการออกแบบให้มีคลองไหลผ่าน บรรยากาศดีงามมากๆ และที่ชั้น 5 ของคาแนลซิตี้ฮากาตะ มีโซนที่เรียกว่า “ราเมง สเตเดี้ยม” ที่รวบรวมเอาราเมงร้านดังจากทั่วญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ โดยมีราเมงสไตล์ฟุกุโอกะแท้ๆ ที่เรียกว่า ฮากาตะราเมง (Hakata Ramen) ให้ชิมด้วย สายกินห้ามพลาด!!
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Hakata แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/5PereBn6mtBjiidJA
11. ย่านยะไต ฮากาตะ (Yatai Hakata)
เอาใจสายกินกันบ้าง ใครอยากเดินเล่นหาของอร่อยในสไตล์ร้านแผงลอยญี่ปุ่นเหมือนที่เคยเห็นในการ์ตูน ในเมืองฟุกุโอกะมีโซนขายอาหารและสตรีทฟู้ดที่เรียกว่า ย่านยะไต ฮากาตะ ซึ่งคำว่า ยะไต หมายถึง ร้านแผงลอย ในโซนนี้ก็จะมีร้านอาหารแผงลอยเล็กๆ ตั้งเรียงรายตลอดทางเดินริมน้ำในเขตฮากาตะ จะเปิดให้บริการในช่วงเย็นๆ ถึงกลางคืน มีทั้งอาหาร ขนม ของกินต่างๆ รวมถึงอาหารท้องถิ่นในฟุกุโอกะมากมาย ร้านแผงลอยแบบนี้เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของการทานอาหารในญี่ปุ่น ที่เราจะได้นั่งดูการทำอาหารและพูดคุยกับเจ้าของร้านแบบเป็นกันเอง ทั้งอร่อยและยังได้เห็นวัฒนธรรมของคนท้องถิ่นอีกด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Hakata แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/7Hu6JyUhjrEkj5zX7
12. สวนโอโฮริ (Ohori Park)
ปิดท้าย ที่เที่ยว ฟุกุโอกะ ในย่านใจกลางฟุกุโอกะกันบ้าง ที่เมืองนี้มี สวนโอโฮริ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เปรียบเสมือนเป็นโอเอซิส ซึ่งชาวเมืองนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ หรือทำกิจกรรมต่างๆ จุดเด่นของสวนโอโฮริคือมีสระน้ำขนาดใหญ่กลางสวน มีเกาะกลางน้ำ 3 เกาะที่เชื่อมกันด้วยทางเดินหิน และมีศาลาหกเหลี่ยมกลางน้ำ ถ่ายรูปสวยยามพระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า นอกจากนี้ภายในสวนโอโฮริยังมีส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นี่จะมีการจัดเทศกาลชมซากุระบานด้วยนะ สวยไม่แพ้เมืองอื่นๆ ของญี่ปุ่นเลยค่ะ รวมไปถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ทั้งสวนจะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี สวยงามมากๆ
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี Tojinmachi
แผนที่ : https://goo.gl/maps/ixg9ZaWyNMWaYA2b6
นอกจากทั้ง 12 ที่เที่ยวในฟุกุโอกะที่พี่เห็ดคัดมาแนะนำนี้แล้วก็ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ในแถบคิวชูอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นที่มีครบทั้งบรรยากาศของเมืองที่มีความทันสมัย ธรรมชาติ รวมถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ได้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นสุดๆ แนะนำให้ไปเที่ยวกันให้ได้เลยค่ะ