@MushroomTravel
9 พิกัด เที่ยวกำแพงเมืองจีน ใกล้ปักกิ่ง ด่านไหนน่าเที่ยวสุด!
ถ้าจะให้นึกถึง 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ยิ่งใหญ่อลังการสุดๆ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง กำแพงเมืองจีน อย่างแน่นอน เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยเป็นกำแพงที่มีความยาวถึง 21,196.18 กิโลเมตร อย่างที่เรียกกันว่า กําแพงหมื่นลี้ ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศจีน ประกอบด้วย ด่านกําแพงเมืองจีน มากมายซึ่งเป็นจุดที่เราสามารถไป เที่ยวกำแพงเมืองจีน ได้แล้วแต่ความสะดวกว่าอยู่ใกล้กับพิกัดไหน และวันนี้ มัชรูมทราเวล ก็ได้คัด พิกัด 9 ด่านกำแพงเมืองจีน ใกล้ปักกิ่ง มาแนะนำ แต่ละด่านอยู่ที่ไหน สวยงามยังไง มาเก็บข้อมูลก่อนไป ทัวร์จีน กันค่ะ!!
1. ด่านปาต้าหลิ่ง (八达岭)
เริ่มกันที่ ด่านปาต้าหลิ่ง เป็นด่านกําแพงเมืองจีนที่นักท่องเที่ยวที่มา เที่ยวจีน นิยมเดินทางไปเยือนมากที่สุด รวมถึงถ้าใครไปเที่ยวกับทัวร์ก็จะได้ไปที่ด่านนี้ด้วย เนื่องจากมีข้อดีคือ เป็นด่านที่เดินทางไปง่าย อยู่ใกล้กรุงปักกิ่งทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 82 กม. มีกระเช้าลอยฟ้าและรถรางให้นั่ง รวมถึงมีร้านอาหารมากมาย สะดวกสบายสุดๆ โดยกำแพงนั้นตั้งอยู่บนภูเขาจวินตูทำให้มีความคดโค้งไปตามสันเขาอย่างสวยงาม แต่มีข้อเสียคือคนนักท่องเที่ยวจะเยอะมาก อาจจะหามุมถ่ายภาพสวยๆ ที่ปลอดคนยากสักหน่อย
พิกัด :
2. ด่านมู่เถียนยวี่ (慕田峪长城)
เที่ยวกำแพงเมืองจีน ต่อกันที่ ด่านมู่เถียนยวี่ เป็นด่านที่ได้รับการบูรณะจนมีสภาพสมบูรณ์ ใกล้เคียงกับของเดิมที่สุดในบรรดา ด่านกําแพงเมืองจีน ข้อดีคือมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ตัวกำแพงถูกล้อมด้วยภูเขาสูงใหญ่ บอกเลยว่าถ่ายรูปสวยแน่นอน และคนไม่เยอะเท่าด่านปาต้าหลิ่ง แถมยังเดินทางได้สะดวกสบายเช่นกัน เพราะอยู่ห่างจากปักกิ่งแค่ 70 กม. มีกระเช้าให้ขึ้นด้วย ไฮไลท์อยู่ที่การสไลด์ตัวลงมาจากด้านบนกำแพงเพื่อลงมาข้างล่าง ไม่ต้องกลัวว่าจะอันตรายค่ะ เพราะปลอดภัยแน่นอน และก็เป็นอีกหนึ่งด้านที่มีโปรแกรมทัวร์พาไปที่นี่ด้วยจ้า
พิกัด :
3. ด่านจวียงกวน (居庸关)
ด่านจวียงกวน เป็นอีกหนึ่ง ด่านกําแพงเมืองจีน ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปไม่แพ้ด่านปาต้าหลิ่ง เพราะมีข้อดีคือ อยู่ใกล้กรุงปักกิ่งที่สุด ห่างออกไปเพียงแค่ 50 กม. เป็นจุดที่มีวัด สวน และจารึกภาษาต่างๆ กระจายโดยรอบ แม้จะไม่มีกระเช้าลอยฟ้าให้นั่งแบบสองด่านก่อนหน้า ต้องเดินขึ้นอย่างเดียว และจะเป็นการเดินจากจุดเริ่มต้นไปจบตรงจุดเดิม ไม่ต้องเดินย้อนไปย้อนมาเหมือนกับด่านอื่นๆ ถ้าใครไปเที่ยวกับทัวร์ ส่วนใหญ่ก็จะได้ไปที่ด่านนี้เช่นกันค่ะ
พิกัด :
4. ด่านจินซานหลิ่ง (金山岭长城)
ไป เที่ยวกำแพงเมืองจีน กันที่ ด่านจินซานหลิ่ง เป็นด่านที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากอยู่ไกลตัวเมืองมาก โดยอยู่ตรงรอยต่อระหว่างอำเภอมี่หยวินของกรุงปักกิ่ง กับอำเภอหลานผิง จังหวัดเฉิงเต๋อ ในมณฑลเหอเป่ย สภาพของกำแพงเมืองจีนส่วนนี้ค่อนข้างจะเก่า ไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม แม้จะมีกระเช้าให้นั่งขึ้นไปข้างบน แต่ก็เป็นเพียงระยะทางสั้นๆ ถ้าเดินไหวแป๊บเดียวก็ถึง แต่ในข้อเสียก็มีข้อดีอยู่บ้างคือ ด่านนี้นักท่องเที่ยวไม่เยอะ และสภาพเก่าๆ ก็เป็นเสน่ห์อีกแบบของกำแพงเมืองจีน ซึ่งถ้ามา เที่ยวจีน ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราก็จะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีทั่วบริเวณ เป็นทัศนียภาพที่สวยงามไม่แพ้ด่านอื่นเลยค่ะ
พิกัด :
5. ด่านซือหม่าไถ (司马台长城)
มาถึง ด่านซือหม่าไถ ว่ากันว่าเป็น ด่านกําแพงเมืองจีน ที่สวยที่สุด!! เนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ตั้งอยู่บนแนวเขาที่มีความสูงชัน และเป็นด่านเดียวในบรรดา 9 ด่านที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมในเวลากลางคืน นอกจากนี้บริเวณหมู่บ้านรอบๆ ทางรัฐบาลได้ปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า เมืองโบราณริมน้ำกู่เป๋ยสุ่ยเจิ้น ภายในมีทั้งโรงแรม 6 ดาว, ร้านอาหาร และร้านขายของพื้นเมืองขึ้นชื่อมากมาย แม้ว่าจะเดินทางค่อนข้างไกล เพราะอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งถึง 140 กม. แต่ถ้าได้มา เที่ยวกำแพงเมืองจีน ชมความสวยงามของด่านนี้ บอกเลยว่าคุ้ม! มีบางโปรแกรมทัวร์ที่พาไปด่านนี้ด้วยนะ
พิกัด :
6. ด่านเจี้ยนโค่ว (箭扣长城)
ด่านเจี้ยนโค่ว เป็น ด่านกําแพงเมืองจีน ที่เค้าว่ากันว่า โหดสุดอะไรสุด!! เหมาะกับคนชอบความท้าทายและรักการผจญภัย เนื่องจากแนวกำแพงตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน ยังไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมเหมือนกับด่านอื่นๆ จึงยังคงสภาพกำแพงเมืองจีนแบบโบราณเอาไว้อยู่ นักท่องเที่ยวจึงไม่นิยมมาที่นี่ และถึงแม้ว่าจะมีข้อเสียคือความยากลำบากในการขึ้นไป แต่ก็มีทัศนียภาพงดงามไม่แพ้ด่านอื่น ข้อดีก็คือ เป็นด่านเดียวที่สามารถเข้าชมได้ฟรี
พิกัด :
7. ด่านหวงฮวาเฉิง (黄花城)
เที่ยวกำแพงเมืองจีน มาถึง ด่านหวงฮวาเฉิง เป็นด่านที่อยู่ติดริมน้ำ ตั้งอยู่ในเขตหวยโหรว ทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่ง ซึ่งห่างออกไปประมาณ 70 กม. โดยด่านหวงฮวาเฉิงนี้ถูกสร้างขึ้นตามแนวภูเขาที่โอบล้อมทะเลสาบขนาดใหญ่ ภายหลังรัฐบาลจีนได้สร้างเขื่อนขึ้นให้กลายเป็นอ่างเก็บน้ำ ซึ่งข้อดีคือนอกจากเราจะได้ชมความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีนแล้ว ยังจะได้ชมความสวยงามของทะเลสาบและธรรมชาติโดยรอบ บรรยากาศดีสุดๆ ไปเลย
พิกัด :
8. ด่านเจียยวี่กวน (嘉峪关)
ด่านเจียยวี่กวน คือ ด่านที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกที่เมืองเจียยวี่กวน มณฑลกานซู ในอดีตเป็นปราการสำคัญของการเข้าออกประเทศจีนบนเส้นทางสายไหม ด่านเจียยวี่กวนมีเอกลักษณ์คือ เป็นกำแพงที่สร้างจากอิฐสีเหลืองนวลกลมกลืนกับทะเลทรายโกบีที่ล้อมรอบ และเป็นกำแพงที่ไม่สูงนัก ต่างจากด่านอื่นที่สร้างด้วยอิฐและหินสีเทา ซึ่งทอดตัวตามแนวเขาสูงตระหง่าน ภายในด่านเจียยวี่กวน ประกอบไปด้วย วัดกวนยู พิพิธภัณฑ์กำแพงเมืองจีน โรงละครจีนโบราณ ฯลฯ
พิกัด :
9. ด่านซานไห่กวน (山海关)
ปิดท้าย เที่ยวกำแพงเมืองจีน ใครยังไม่เคยเห็น ปลายสุดของกำแพงเมืองจีน ต้องมาที่ ด่านซานไห่กวน เป็น ด่านเดียวที่อยู่ติดทะเล โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฉินฮว่างต่าว ระหว่างมณฑลเหอเป่ย และมณฑลเหลียวหนิง ด้านเหนือติดกับภูเขาเยียนซาน ด้านใต้ติดทะเลป๋อไห่ โดยเราจะเห็นวิวภูเขาสูงตระการตาไปพร้อมๆ กับท้องทะเลบนกำแพง ด่านนี้มีข้อดีคือเป็นกำแพงที่ทางเดินไม่ค่อยลาดชันเหมือนด่านส่วนใหญ่ เนื่องจากพื้นที่ชายฝั่งทางด้านที่กำแพงตั้งอยู่มีลักษณะเป็นชายหาด เราจึงสามารถเดินเที่ยวได้สบายๆ ไม่เมื่อยแน่นอนค่ะ
พิกัด :
แต่ละด่านกำแพงเมืองจีนก็มีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย ถ้าใครยังมองภาพรวมไม่ค่อยออก พี่เห็ด สรุปง่ายๆ มาให้ชม แล้วไปเที่ยวหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้นกันนะจ๊ะ
