อาบูดาบี (Abu Dhabi) เป็นเมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ มีพรมแดนติดกับอ่าวเปอร์เซีย, ซาอุดีอาระเบีย และโอมาน ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหราอลังการสมฐานะเศรษฐีน้ำมัน โดยเฉพาะงานสถาปัตยกรรมที่เห็นแล้วต้องทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นตึกสูงดีไซน์แปลกตา หรืออาคารที่ผสมผสานวัฒนธรรมอาหรับเข้ากับความโมเดิร์น นอกจาก ที่เที่ยวอาบูดาบี สุดอลังการแล้ว ยังมีโรงแรมหรูระดับโลก แหล่งช้อปปิ้งสุดทันสมัย ร้านอาหารชั้นนำ และชายหาดที่สวยงาม เรียกว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่รวมทุกอย่างไว้แบบครบครันสุดๆ

สภาพอากาศของอาบูดาบี แบ่งได้เป็น 4 ฤดูคือ
1. ฤดูใบไม้ผลิ (ต้นเดือนมีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 25 – 35 องศาเซลเซียส
2. ฤดูร้อน (ปลายเดือนพฤษภาคม – กันยายน) อุณหภูมิเฉลี่ย 35 – 45 องศาเซลเซียส เดือนที่ร้อนที่สุดคือเดือนสิงหาคม
3. ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม – พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ย 30 – 35 องศาเซลเซียส
4. ฤดูหนาว (ธันวาคม – ต้นเดือนมีนาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 23 – 25 องศาเซลเซียส อาจมีฝนตกเล็กน้อยในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์
ใครที่อยากมาเที่ยวอาบูดาบี แต่ยังไม่มีข้อมูลว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล คัดมาให้แล้วกับ 8 ที่เที่ยวอาบูดาบี ที่ไม่ควรพลาด เตรียมตัวไปปักหมุดกันได้เลย
1. มัสยิดชีคซายิด (Sheikh Zayed Grand Mosque)

มัสยิดชีคซายิด ถูกยกย่องให้เป็น มัสยิดที่สวยที่สุดในโลก มีพื้นที่รวมกว่า 555,000 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยยอดโดม 82 โดม และหอคอยสุเหร่าสูงเสียดฟ้า ใช้เวลาสร้างกว่า 10 ปี จนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2007 และตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ ซายิด บิน สุลต่าน อัล นาห์ยัน อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อเข้าไปด้านในจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการตกแต่งที่หรูหรา เช่น พรมทอมือผืนใหญ่ที่สุดในโลกที่มีขนาดถึง 5,627 ตารางเมตร และโคมระย้ากว้าง 10 เมตร สูง 15 เมตร ประดับด้วยทองคำ 24 กะรัต และคริสตัลสวารอฟสกี้ เรียกได้ว่าโอ่อ่าอลังการสมกับที่ร่ำลือกันเลยค่ะ
เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 22.00 น. (วันศุกร์ปิดช่วงสั้นๆ เวลา 12.00 – 15.00 น.)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/iQdgCXoCTHozDbLv9
2. อาคารเอทิฮัดทาวเวอร์ (Etihad Towers)

อาคารเอทิฮัดทาวเวอร์ เป็น ที่เที่ยวอาบูดาบี ที่ตั้งอยู่ใกล้กับหาดคอร์นิช ครอบคลุมพื้นที่กว่า 460,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารสูง 5 อาคาร ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ มีครบทุกอย่างตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าสุดหรู, บาร์และร้านอาหารชั้นนำ, โรงแรมระดับ 5 ดาว, สวนสวยๆ และ จุดชมวิว Observation deck at 300 บนชั้น 74 ของอาคาร 2 ที่มองเห็นอ่าวอาหรับ รวมถึงแลนด์มาร์กหลายแห่ง เช่น พระราชวังเอมิเรตส์, พระราชวังแห่งชาติ, อาคาร Rixos Marina Abu Dhabi ได้อย่างชัดเจน
เว็บไซต์ : https://etihadtowers.ae
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/qxtht3P7N81cWRhB7
3. พระราชวังเอมิเรตส์ (Emirates Palace)

พระราชวังเอมิเรตส์ เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ซึ่งปัจจุบันบริหารงานโดย Mandarin Oriental และเป็น 1 ใน 3 โรงแรมที่มีค่าก่อสร้างแพงที่สุดในโลก โดยใช้งบประมาณไปกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ จัดเต็มด้วยความหรูหราไม่ต่างจากพระราชวัง โดยเฉพาะอาคารหลักที่มีความสูง 8 ชั้น และทอดยาวจากปีกหนึ่งไปยังอีกปีกหนึ่งกว่า 1 กิโลเมตร พื้นที่ภายในกว่า 80% ประดับด้วยทองคำแท้ๆ ทั้งพื้น ผนัง เพดาน เสา หรือแม้แต่ในห้องพัก นอกจากนี้ยังมีสวนขนาดใหญ่, สระว่ายน้ำ, ชายหาดส่วนตัว ความยาวกว่า 1.3 กิโลเมตร, ท่าจอดเรือส่วนตัว, สปา และร้านอาหารระดับมิชลิน เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อนเหมือนได้นอนในวังจริงๆ !
เว็บไซต์ : https://www.mandarinoriental.com/ar-a
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/puhRZvau6stGYSLb6
4. พระราชวังแห่งชาติ (Qasr Al Watan)

มา เที่ยวอาบูดาบี กันต่อที่ กัสร์ อัล วาตัน แปลเป็นภาษาอังกฤษคือ Palace of the Nation หรือ พระราชวังแห่งชาติ ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นทำเนียบประธานาธิบดี แต่เปิดให้เข้าชมได้บางส่วน เช่น โถงหลักที่ประดับลวดลายโมเสก คลุมด้วยโดมกว้าง 37 เมตร สูง 60 เมตร, ห้องสมุดที่มีหนังสือเก่าแก่จำนวนมหาศาล, ห้องเลี้ยงรับรองที่เคยใช้จัดการประชุมผู้นำระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง และคอลเลกชันของขวัญทางการทูตจากนานาประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการแสดงแสงสีเสียงสุดตระการตา Palace in Motion ที่บริเวณหน้าพระราชวังทุกวันในช่วงเย็นด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 18.30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 65 AED / เด็ก (อายุ 4 – 17 ปี) 30 AED
เว็บไซต์ : https://www.qasralwatan.ae/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/C2GPwpZAbSvt8G8o7
5. พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ อาบูดาบี (Louvre Abu Dhabi)

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ อาบูดาบี เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดบนคาบสมุทรอาหรับ มีพื้นที่กว้างถึง 24,000 ตารางเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างไปถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.29 หมื่นล้านบาท ภายในเก็บรวบรวมผลงานศิลปะไว้กว่า 700 ชิ้น และยังมีนิทรรศการชั่วคราวที่นำผลงานจากพิพิธภัณฑ์ชื่อดังในฝรั่งเศส เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์, พิพิธภัณฑ์ออร์แซ, ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมปงปิดู มาจัดแสดงด้วย นอกจากนี้ตัวอาคารเองก็ยังเป็นผลงานศิลปะชิ้นเอกที่ออกแบบโดย ฌอง นูเวล (Jean Nouvel) โดยมีโดมลายฉลุสีเงินขนาดมหึมาหนัก 7,500 ตัน ครอบอยู่เหนือพิพิธภัณฑ์ เวลาแสงอาทิตย์ส่องลงมาจะเกิดเงาที่สวยงาม และเปลี่ยนลวดลายไปตามช่วงเวลา
เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 00.00 น. (วันจันทร์ – พฤหัสบดี แกลเลอรีปิด 18.30 น. / วันศุกร์ – อาทิตย์ แกลเลอรีปิด 20.30 น.)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) 63 AED
เว็บไซต์ : https://www.louvreabudhabi.ae/ar
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/jRkZ4TEgoEQymvCK7
6. ยาส มอลล์ (Yas Mall)

ใครเป็นสายช้อปต้องไม่พลาด ยาส มอลล์ ที่เที่ยวอาบูดาบี ที่ตั้งอยู่ใจกลางเกาะยาส เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาบูดาบี และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีร้านค้ารวมกว่า 370 ร้าน อยากได้อะไรที่นี่ก็มีหมด ตั้งแต่เสื้อผ้าแฟชั่น, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องประดับ, แว่นตา น้ำหอม, เครื่องสำอาง, สกินแคร์, ของใช้เด็ก ฯลฯ แถมยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ทั้งในร่มและกลางแจ้งอีกกว่า 60 ร้าน รวมถึงทางเชื่อมไปยัง เฟอร์รารี เวิลด์ อาบูดาบี (Ferrari World Abu Dhabi) ซึ่งเป็นสวนสนุกแห่งแรกของโลกภายใต้แบรนด์เฟอร์รารีด้วย
เวลาเปิด – ปิด : อาทิตย์ – พฤหัสบดี 10.00 – 22.00 น. / ศุกร์ – เสาร์ 10.00 – 00.00 น.
เว็บไซต์ : https://www.yasmall.ae/en/home
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/BjuemsvX14iH5gXp7
7. ตลาดนัดอินทผลัม (Abu Dhabi Dates Market)

ตลาดนัดอินทผลัม เป็น ที่เที่ยวอาบูดาบี ที่เหมาะสำหรับการซื้อของฝาก เพราะอินทผลัมเป็นผลไม้พื้นเมืองและของขึ้นชื่อของที่นี่ มีให้เลือกมากกว่า 120 สายพันธุ์ ทั้งที่ปลูกในประเทศและนำเข้ามา เช่น Ajwa, Khalas, Medjool, Mabrum, Sukari, Khidri, Kaneezi ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน สามารถชิมก่อนได้ ราคาไม่แพง แถมต่อรองราคาได้ นอกจากนี้ยังมีอินทผลัมรูปแบบอื่นๆ เช่น อินทผลัมสด, นำมาสอดไส้, เคลือบช็อกโกแลต, แปรรูปเป็นแยมหรือไซรัป รวมถึงมีผลไม้แห้งต่างๆ ถั่ว และเครื่องเทศ จำหน่ายด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 00.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/B35FgV7tH5ora44j9
8. ดิสนีย์แลนด์ อาบูดาบี (Disneyland Abu Dhabi)

ปิดท้ายด้วยที่เที่ยวใหม่แกะกล่องอย่าง ดิสนีย์แลนด์ อาบูดาบี เป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งที่ 7 ของโลก และแห่งแรกในตะวันออกกลาง ตั้งอยู่บนพื้นที่ของเกาะยาส ใกล้กับสนามบินหลัก ห่างจากตัวเมืองเพียง 30 นาทีเท่านั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 2030 โดยผู้รับผิดชอบดำเนินงานคือ Miral Group ผู้อยู่เบื้องหลังสวนสนุกชั้นนำของอาบูดาบีอย่าง Ferrari World, SeaWorld, Warner Bros. World ที่สำคัญคือจะมีการผสมผสานวัฒนธรรมอาหรับเข้าไปในองค์ประกอบต่างๆ ด้วย ใครอยากเป็นคนไทยคนแรก สัมผัสบรรยากาศดิสนีย์แลนด์ที่ไม่เหมือนที่ไหน รอติตตามประกาศเรื่องวันเปิดทำการอีกครั้ง แล้วเก็บกระเป๋ามา เที่ยวอาบูดาบี กันได้เลย
อาบูดาบี ไม่ได้มีดีแค่ความหรูหรา แต่ที่เที่ยวก็หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อป รวมถึงที่เที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ มาแล้วรับรองว่าจะต้องได้ประสบการณ์ดีๆ กลับไปแน่นอน ใครสนใจอยากไปสัมผัสความสนุกแบบนี้ กดจอง ทัวร์ดูไบ ไปกับมัชรูมทราเวล ได้เลย !