Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

7 ทุ่ง ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น ถ่ายรูปสวยปัง บานสะพรั่งทั่วเมือง

ดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า อะจิไซ (Ajisai アジサイ) เป็นดอกไม้เมืองหนาว เติบโตได้ดีในอากาศเย็นสบาย ลักษณะของดอกจะเป็นช่อกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15 – 18 เซนติเมตร ดูโดดเด่นและสวยงามมากๆ เหมือนช่อดอกไม้ที่มีคนจัดเอาไว้อย่างตั้งใจ อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนสีได้ตามค่าความเป็นกรด – ด่าง (pH) ของดินที่ปลูก จึงมีสีสันที่หลากหลายทั้งชมพู ม่วง ฟ้า ขาว แดง เป็นหนึ่งในดอกไม้ที่มีปลูกมากในญี่ปุ่น ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม จะเป็นช่วงที่ดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่งเต็มที่ เมื่อถึงเวลานี้จะมีทุ่งไฮเดรนเยียสวยๆ มากมายให้ชมทั่วประเทศ ใครอยากไปชม พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มีมาแนะนำ 7 พิกัดทุ่ง ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น ตามไปดูกันเลยว่าพิกัดเด็ดที่ไม่ควรพลาดอยู่ที่ไหนบ้าง !


1. วัดมิมูโระโทจิ (Mimurotoji Temple) – เกียวโต

ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น
Credit : lansa / shutterstock.com

วัดมิมูโระโทจิ ตั้งอยู่บนเนินเขา ทางตอนเหนือของเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,200 ปีแล้ว ที่นี่ยังได้ฉายาว่า “วัดดอกไม้” เนื่องจากบริเวณรอบๆ มีสวนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลายชนิด ซึ่งจะบานแตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาล รวมถึงดอก ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น กว่า 20,000 ดอก จาก 50 สายพันธุ์ ที่ผลิบานไล่เฉดสีอย่างสวยงาม ตั้งแต่สีฟ้าอ่อนไปจนถึงสีชมพูสดใส ชมได้ช่วงเดือนมิถุนายน ได้ถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้กันจนจุใจแล้ว ก่อนกลับอย่าลืมเข้าไปสักการะขอพรพระโพธิสัตว์พันมือ และลูบที่รูปปั้นเทพอูงาจิงกันด้วย เชื่อกันว่าจะทำให้โชคดีและร่ำรวย และบริเวณหน้าห้องโถงยังมีรูปปั้นวัวและกระต่ายที่เชื่อกันว่าถ้าสัมผัสลูกหินในปากวัวจะประสบความสำเร็จ

เวลาเปิด-ปิด :
– เดือนเมษายน – ตุลาคม เวลา 08.30 น. – 16.30 น.
– เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เวลา 08.30 น. – 16.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน / เด็ก 500 เยน
เว็บไซต์ : https://www.mimurotoji.com/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/vZtEb6HgnVCDyASM6


2. ฟาร์มฮัตโตริ (Hattori Farm Hydrangea Mansion) – ชิบะ 

ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น
Credit : Celia Knox / shutterstock.com

ฟาร์มฮัตโตริ เป็นจุดชม ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น ชื่อดัง ที่ตั้งอยู่ในเมืองโมบาระ จังหวัดชิบะ สามารถเดินทางจากโตเกียวด้วยรถไฟโดยใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง หากมาในช่วงเดือนมิถุนายน เพื่อนๆ จะได้สัมผัสกับความอลังการของทุ่งดอกไฮเดรนเยียกว่า 10,000 ดอก จาก 250 สายพันธุ์ ที่พร้อมใจกันเบ่งบานไปทั่วเนินเขา ซึ่งเป็นผลผลิตจากน้ำพักน้ำแรงของครอบครัวฮัตโตริ ที่เริ่มปลูก ดอกไม้ในญี่ปุ่น มาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 20 เพื่อสร้างภูมิทัศน์ที่งดงามให้กับท้องถิ่น จนกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของเมือง นอกจากนี้ทางฟาร์มยังมีการนำผักและผลไม้ที่ปลูกในท้องถิ่น เช่น เมล่อน โลควอท แตงโม ลูกพลับ มาจำหน่ายให้ซื้อกลับไปเป็นของฝากกันด้วย

เวลาเปิด-ปิด : เดือนมิถุนายน – ต้นเดือนกรกฎาคม เวลา 08.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) 600 เยน / เด็ก (นักเรียนประถมศึกษา) 300 เยน
เว็บไซต์ : http://ajisaiyashiki.la.coocan.jp/index.html
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/wnMEph7gBjMvpSfR8


3. สวนซิมเบิล พรอมะนาด (Symbol Promenade Park) – โตเกียว 

ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น
Credit : ashita-nanitoro.com

ไปชมดอกไฮเดรนเยียกันต่อในโตเกียวที่ สวนซิมเบิล พรอมะนาด สวนขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อระหว่าง Ariake, Aomi และ Daiba มีพื้นที่กว่า 260,000 ตารางเมตร ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งของอ่าวโตเกียว ในย่านโอไดบะ มีทั้งทัศนียภาพที่งดงาม และดอกไม้นานาชนิดที่สลับกันผลิบานตามฤดูกาล ไฮไลต์อยู่บริเวณทางเดินบันได ที่จะมีดอกไฮเดรนเยียช่อใหญ่ๆ เรียงกันแน่นขนัดตลอดสองข้างทาง โดยจะแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนสีขาว และโซนสีฟ้า นอกจากนี้ยังมีบางมุมที่เห็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่เป็นฉากหลังด้วย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/LVd9ptY1SGLPbeVX6


4. รถไฟฮาโกเนะโทซัง (Hakone Tozan Train) – คานางาวะ

ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น
Credit : japan-guide.com

รถไฟฮาโกเนะโทซัง มีอีกชื่อหนึ่งคือ “รถไฟสายไฮเดรนเยีย (Hydrangea Train)” เชื่อมระหว่างสถานีฮาโกเนะยูโมโตะ (Hakone Yumoto) และสถานีโกระ (Gora) รวมระยะทาง 8.9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที เส้นทางมีทั้งวิ่งขึ้นเนินเขา ลงทางลาด สลับรางซิกแซก ลัดเลาะตามหุบเขา แต่ที่พิเศษสุดๆ ก็คือวิวสองข้างทาง ซึ่งจะมีดอก ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น หลากสีเรียงรายกันให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิด และในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไฮเดรนเยียสวยที่สุด จะมีการเปิดไฟ Light Up ในเวลากลางคืนด้วย

เวลาเปิด-ปิด :
– จากสถานี Hakone – Yumoto ขบวนแรกเวลา 06.12 –  22.43 น. (วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รถไฟเที่ยวสุดท้ายเวลา 22.37 น. )
– จากสถานี Yumoto – Hakone ขบวนแรกเวลา 05.45 –  22.16 น. (วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รถไฟเที่ยวสุดท้ายเวลา 22.11 น. )
ค่าเข้าชม : 460 เยน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/bwXw7MLadTg8tJMu7


5. สวนสาธารณะชิโมดะ (Shimoda Park) – ชิซูโอกะ

ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น
Credit : okimo / canva.com

สวนสาธารณะชิโมดะ ตั้งอยู่บนเนินเขาทางตอนใต้ของคาบสมุทรอิซุ ในเมืองชิโมดะ ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในจุดชมดอกไฮเดรนเยียที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โดยจะมีการจัดงานเทศกาล ไฮเดรนเยีย ญี่ปุ่น หรือ งานเทศกาล Shimoda Ajisai (Hydrangea) Festival ในเดือนมิถุนายนของทุกปี ซึ่งจะมีไฮเดรนเยียกว่า 150,000 ต้น ที่ผลิบานพร้อมกันกว่า 3 ล้านดอก ทำให้บรรยากาศรอบๆ ดูสดใสและอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ภายในสวนมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทุ่งดอกไม้ในมุมสูง พร้อมด้วยทัศนียภาพแบบพาโนรามาของอ่าวชิโมดะ รวมทั้งยังมีซากปราสาทและอนุสรณ์สถานต่างๆ ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/UqyTHyUorzmEUZJy9


6. คาซาฮายะ โนะ ซาโตะ (Kazahaya no Sato) – มิเอะ

Credit : travel.rakuten.com

คาซาฮายะ โนะ ซาโตะ ตั้งอยู่ภายในสนามกอล์ฟ Ise Onsen Golf Club เมืองสึ จังหวัดมิเอะ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 33,000 ตารางเมตร เป็นจุดชม ดอกไม้ในญี่ปุ่น ที่คนนิยมมากันตลอดทั้งปี เพราะมีดอกไม้สวยๆ ให้ชมทุกฤดู โดยช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม จะเป็นดอกบ๊วย, ช่วงปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม จะเป็นดอกวิสทีเรีย และถ้าอยากชมดอกไฮเดรนเยีย ต้องมาช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม เพราะจะบานสะพรั่งไปทั่วกว่า 77,000 ต้น ทั้งยังมีสายพันธุ์หาชมยาก เช่น Selma, Sharona, Serena, Sandra ที่หาชมได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้ภายในสวนยังมีร้านค้าขายของที่ระลึก และร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูขึ้นชื่อของเมืองสึด้วย

เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) 100 – 1,500 เยน / เด็กอายุ 13 – 17 ปี 0 – 750 เยน / เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าฟรี
** ราคาขึ้นอยู่กับการบานของดอกไม้
เว็บไซต์ : https://www.kazahayanosato.com/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/a4NyMo6fAtGXFQuj9


7. คาทะฮาระ ออนเซ็น (Katahara Onsen) – ไอจิ

Credit : aichinow.pref.aichi.jp

ปิดท้ายกันที่ คาทาฮาระออนเซ็น ตั้งอยู่ในเมืองกามาโกริ (Gamagori) จังหวัดไอจิ เป็นรีสอร์ตน้ำพุร้อนบนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม ในเดือนมิถุนายนของทุกปีจะมีผู้คนกว่า 100,000 คนมาเที่ยวชมเทศกาลไฮเดรนเยียที่นี่ เพราะมีดอกไฮเดรนเยียทุกเฉดสี รวมกว่า 50,000 ต้น ถูกจัดเรียงอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ เช่น ประกวดภาพถ่าย ชมหิ่งห้อย และมีการเปิดไฟในตอนกลางคืน ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามของดอกไฮเดรนเยียในอีกบรรยากาศที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนกับตอนกลางวัน

เวลาเปิด-ปิด : 08.00 – 21.00 น. (ไฟเปิดตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน)
ค่าเข้าชม : 500 เยน (นักเรียนมัธยมต้นและต่ำกว่า เข้าฟรี)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/753F2J25v2mCWCCH7

ในรูปยังสวยขนาดนี้ ของจริงบอกเลยว่าสวยกว่าเป็นร้อยเท่า! ใครไม่อยากพลาดประสบการณ์ดีๆ แบบนี้จอง ทัวร์ญี่ปุ่น ไปเที่ยวกับมัชรูมทราเวลได้เลย พี่เห็ดมีทริปสนุกๆ ที่จะพาไปชมความสวยงามของ ดอกไม้ในญี่ปุ่น พร้อมเช็กอินสถานที่เด็ดๆ และแลนด์มาร์กสุดปังอีกเพียบ เตรียมกล้องมาให้พร้อม รับรองได้ภาพสวยๆ กลับไปลงได้อีกเป็นเดือน !


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง