เที่ยวญี่ปุ่น กับอีกหนึ่งเมืองน่าสนใจอย่าง นาโกย่า (Nagoya) เมืองสุดทันสมัยในจังหวัดไอจิ แห่งภูมิภาคจูบุ ซึ่งเป็นภูมิภาคทางตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ในแง่ของเศรษฐกิจนาโกย่าเป็นเมืองสำคัญด้านอุตสาหกรรม โรงงานชื่อดังมากมายมีต้นกำเนิดจากเมืองนี้ รวมถึงยังเป็นสถานที่ก่อตั้งกลุ่มบริษัทโตโยต้าอีกด้วย ส่วนในแง่ของการท่องเที่ยว นาโกย่าเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรม ของกินก็อร่อย แถมยังมีแหล่งช้อปปิ้งให้ไปละลายทรัพย์อีกด้วย ใครเริ่มสนใจอยากไปเที่ยว บทความนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาไปรู้จักกับเมืองนาโกย่าแบบครบทุกรส พร้อมแจก 11 พิกัด ที่เที่ยวนาโกย่า ครบทั้งเที่ยว กิน ช้อป!
1. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)

เริ่มต้นเที่ยว นาโกย่า พาไปที่สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอย่าง ปราสาทนาโกย่า ในอดีตเคยเป็นที่อยู่ของโชกุนตระกูลโทคุคาวะ ซึ่งเป็นโชกุนตระกูลแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ตัวปราสาทอาจจะไม่ได้แตกต่างจากปราสาทอื่นๆ ในญี่ปุ่นมากนัก แต่บอกเลยว่าทีเด็ดอยู่ตรงที่ หลังคาที่มีรูปสลักปลาหัวเสือทองคำ หรือ คินชาจิ (Kinshachi) แห่งเดียวในญี่ปุ่น อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่ก่อกำเนิดมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ละครโน ละครตลกเคียวเง็น ฮานามิหรือการชมดอกไม้ รวมถึงการชงชาอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่น ขนาดสมัยนั้นยังล้ำขนาดนี้ ลองดูสิว่าสมัยนี้จะล้ำขนาดไหน
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Meijo สถานี Nagoyajo (ชื่อเดิมคือ Shiyakusho)
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 16.30 น. (ปิดวันที่ 29 ธันวาคม – 1 มกราคมของทุกปี)
แผนที่ : https://goo.gl/maps/wGeqMnEqfKySX4nh7
2. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่า (Nagoya City Science Museum)

สำหรับนักท่องเที่ยวสายพิพิธภัณฑ์ถ้าได้มาเที่ยว นาโกย่า ต้องปลื้มแน่นอน เพราะนาโกย่าเป็นศูนย์กลางของแหล่งความรู้ด้านอุตสาหกรรม เราจะเห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่นผ่าน พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งเมืองนาโกย่า พิพิธภัณฑ์สุดล้ำที่นำเสนอความรู้ต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ ทั้ง ท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือจะเป็น สัมผัสความหนาวที่ -30 องศาเซลเซียส พร้อมกับชมแสงเหนือแบบไม่ต้องไปถึงไอซ์แลนด์ ถ้าแค่นั้นยังมันส์ไม่พอ ลองไปสัมผัสบรรยากาศ พายุทอร์นาโดความสูง 9 เมตร ซึ่งที่ยกมานี่แค่น้ำจิ้มเท่านั้นเอง ที่นี่ยังมีอะไรล้ำๆ ให้ชมอีกเยอะ แถมตัวอาคารยังสร้างได้เหมือนโลกอนาคตล้ำๆ เป็นพิกัดถ่ายรูปยอดฮิตของนาโกย่าด้วยค่ะ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Higashiyama และ Tsurumai สถานี Fushimi ทางออก 5
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 – 17.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
เว็บไซต์ : www.ncsm.city.nagoya.jp/en/
แผนที่ : https://goo.gl/maps/NnmTFQvULxDo6RZ6A
3. ชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ มิไร ทาวเวอร์ (Chubu Electric Power MIRAI TOWER)

แลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนาโกย่าที่ใครมาก็ต้องเห็นอย่าง Chubu Electric Power MIRAI TOWER หรือชื่อเดิมก็คือ Nagoya TV Tower นั่นเอง เป็นหอคอยที่มีความสูง 180 เมตร มีทั้งหมด 5 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองในย่านซากาเอะ เปิดทำการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1954 สร้างขึ้นด้วยเหล็กกล้าและใช้กำลังคนในการสร้างทั้งหมด โดยที่นี่เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์แห่งแรกญี่ปุ่น เปิดทำการก่อน Tokyo Tower เสียอีก ปัจจุบันมีการพัฒนาโครงสร้างและปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองนาโกย่าจากมุมสูงได้ บอกเลยว่าถ้าไม่ได้มาเช็คอิน ที่เที่ยวนาโกย่า แห่งนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง!
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Higashiyama สถานี Sakae
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ – ศุกร์ และวันอาทิตย์ 10.00 – 21.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 20.40 น.) / วันเสาร์ 10.00 – 21.40 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 21.20 น.)
เว็บไซต์ : https://www.nagoya-tv-tower.co.jp/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/G38ERGJhMaUP2dTs9
4. อาคารโอเอซิส 21 (Oasis 21)

ใกล้กันยังมีอีกหนึ่งแลนด์มาร์กในย่านซากาเอะ ที่นี่คือ อาคารโอเอซิส 21 ที่เป็นทั้งห้างสรรพสินค้า แหล่งรวมร้านอาหารและร้านค้า อีกทั้งยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Water Spaceship roof รวมถึงพื้นที่สาธารณะสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ที่เรียกว่า Milky Way Square ด้วยรูปทรงอาคารและหลังคาที่เป็นรูปวงรี ดูแปลกตาและทันสมัย เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว ตอนกลางคืนยังเปิดไฟสวยงามอีกด้วย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Higashiyama สถานี Sakae
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 22.00 น.
เว็บไซต์ : https://www.sakaepark.co.jp/
แผนที่ : https://goo.gl/maps/9nh9KJVWueswwoid8
5. วัดโอสุคันนง (Osu Kannon Temple)

ใครมาเที่ยว นาโกย่า ก็ต้องมาเติมแต้มบุญที่ วัดโอสุคันนง เป็นวัดพุทธที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนาโกย่าในย่านโอสุ เดิมสร้างขึ้นในสมัยคามาคุระ หรือประมาณ ค.ศ. 1192 – 1333 ในจังหวัดกิฟุ ที่อยู่ใกล้กัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1612 วัดแห่งนี้ได้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ โทกุงาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu) ผู้ก่อตั้งและโชกุนคนแรกของรัฐบาลโชกุนโทกุงาวะ ได้มีคำสั่งให้ย้ายวัดจากจังหวัดกิฟุมายังที่ตั้งปัจจุบันในเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ และอาคารก็ปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 20 ภายในเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นไม้เจ้าแม่กวนอิม ที่คนเคารพนับถือเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ตัววัดยังอยู่ใกล้กับย่านช้อปปิ้งอีกด้วย สามารถแวะมาเที่ยวได้เลยค่ะ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Tsurumai สถานี Osu Kannon
เวลาเปิด-ปิด : 06.00 – 19.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/DtL2fDREKnL167nk7
6. ศาลเจ้ามิวะ (Miwa Shrine)

อีกหนึ่งศาลเจ้าที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านโอสุคือ ศาลเจ้ามิวะ หรือ ศาลเจ้ากระต่าย ศาลเจ้าเก่าแก่ที่นิยมในหมู่วัยรุ่น เป็นศาลเจ้าเล็กๆ แต่แฝงไปด้วยความน่ารัก เพราะภายในมีการตกแต่งมุมต่างๆ ด้วยรูปปั้นกระต่ายเต็มไปหมด ซึ่งคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า กระต่ายเป็นผู้ส่งสารของพระเจ้า คนจะนิยมมาลูบขอพรเรื่องความรัก และขอพรเรื่องสุขภาพ หากเราเจ็บปวดส่วนไหนในร่างกายก็ให้ลูบรูปปั้นกระต่ายส่วนนั้น นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางและแผ่นไม้สำหรับเขียนขอพรเป็นรูปต่ายด้วย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Meijo และ Tsurumai สถานี Kamimaezu
เวลาเปิด-ปิด : 09.00 – 17.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/jungdfLRppWjVNYR8
7. ศาลเจ้าอาสึตะ (Atsuta Shrine)

มาสักการะศาลเจ้าชินโตที่ ศาลเจ้าอาสึตะ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,900 ปี เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าอามาเทระสุ (Amaterasu) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบุตรีแห่งพระอาทิตย์ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บรักษาวัตถุโบราณชิ้นสำคัญ เช่น ดาบคุซานางิ (Kusanagi-no-Tsurugi) 1 ใน 3 ของเครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ประจำจักรพรรดิญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมี หอสมบัติ สถานที่จัดแสดงสมบัติล้ำค่าจากราชวงศ์จักรพรรดิ ที่จะหมุนเวียนให้ชมทุกๆ เดือน
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Tokaido สถานี Atsuta Station
เวลาเปิด-ปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
แผนที่ : https://goo.gl/maps/JtgnLFQiFy1R2rqx5
8. สวนสนุกเลโก้แลนด์ ® เจแปน รีสอร์ท (LEGOLAND ® Japan RESORT)

สนุกไปกับโลกที่เต็มไปด้วยตัวต่อเลโก้กันที่ สวนสนุกเลโก้แลนด์ ® เจแปน รีสอร์ท เป็นสวนสนุกเลโก้แลนด์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ด้านในแบ่งออกเป็น 8 โซน มีเครื่องเล่นมากกว่า 40 อย่าง ไฮไลท์ก็คือ Submarine Adventure เครื่องเล่นลักษณะเป็นเรือดำน้ำที่จะพาเราท่องโลกใต้ทะเล ชมปลาหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากเครื่องเล่นแล้วก็ยังมีโซนจัดแสดงสื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ โดยมีตัวต่อเลโก้จำลองสถานที่สำคัญต่างๆ และชุดโมเดลอีกมากกว่า 10,000 ชุด คนชอบเลโก้ต้องไม่พลาดเลยค่ะ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Aonami Line สถานี Kinjo-futo
เวลาเปิดปิด : 10.30 – 17.00 น.
เว็บไซต์ : https://www.legoland.jp/
แผนที่ : https://goo.gl/maps/41JT2EsgmdFBVp817
9. จิบลิ ปาร์ค (Ghibli Park)

แฟนคลับการ์ตูน Ghibli ต้องไม่พลาดที่นี่ Ghibli Park เป็นธีมปาร์คแห่งแรกของ Studio Ghibli เปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ตั้งอยู่ในเมืองนากาคุเตะ (Nagakute) จังหวัดไอจิ ไม่ไกลจากนาโกย่า บริเวณพื้นที่ของ Expo 2005 Aichi Commemorative Park ที่นี่ต่างจากที่โตเกียวซึ่งเป็นมิวเซียม ภายในตกแต่งด้วยตัวละครต่างๆ และจำลองบรรยากาศให้เหมือนกับอยู่ในการ์ตูนเรื่องนั้น โดยมีทั้งหมด 5 โซน คือ Ghibli’s Grand Warehouse, Hill of Youth, Dondoko Forest, Mononoke Village และ Valley of Witches ใครจะไปที่นี่ต้องวางแผนล่วงหน้ากันยาวๆ เพราะต้องจองบัตรเข้าชมล่วงหน้า 2 เดือน และเต็มไวมาก โดยจะเปิดให้จองทุกวันที่ 10 ช่วงเวลา 14.00 น. ถ้าได้เข้าไปแล้วบอกเลยว่าฟินสุดๆ มีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ เพียบ
การเดินทาง :
– รถไฟ จากสถานี Nagoya ขึ้นรถไฟใต้ดิน สาย Higashiyama ไปยังสถานี Fujigaoka จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Aichi High-Speed Transit Tobu Line (Linimo) ของบริษัท Aichi Rapid Transit ลงที่สถานี Ai-Chikyuhaku-Kinen-Koen ใช้เวลารวมประมาณ 46 นาที
– รถบัส มีรถบัส Meitetsu Bus จากสถานี Nagoya และ สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) ไป Ghibli Park ดูเพิ่มเติมที่ https://www.meitetsu-bus.co.jp/express/aichikyuhaku/
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ และ วันพุธ-ศุกร์ 10.00 – 17.00 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ 09.00 – 17.00 น. / ปิดวันอังคาร
เว็บไซต์ : https://ghibli-park.jp/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/Jf3iQzCEjzfQVJvaA
10. ย่านซากาเอะ (Sakae)

มา เที่ยวญี่ปุ่น ทั้งที ถ้าไม่ได้ช้อปปิ้งก็เหมือนจะขาดอะไรไปสักอย่าง พี่เห็ดจะพาขาช้อปไปละลายทรัพย์กันที่ ย่านซากาเอะ ย่านการค้าที่รวมความทันสมัยของนาโกย่า เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เต็มสองฝั่งถนน รวมถึงยังมีร้านค้าแบรนด์ชั้นนำมากมาย แน่นอนว่ามีร้านดองกิโฮเต้ หรือ ดองกี้ ด้วยนะ ส่วนใครไม่เน้นช้อปปิ้งก็มาเดินเล่นถ่ายรูปกันได้ เพราะย่านนี้เป็นที่ตั้งของอาคารรูปทรงแปลกตา อย่าง โอเอซิส 21 (Oasis 21) และ ชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ มิไร ทาวเวอร์ (Chubu Electric Power MIRAI TOWER) ที่พี่เห็ดแนะนำไปข้างต้นนั่นเองค่ะ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Higashiyama หรือ Meijo สถานี Sakae
แผนที่ : https://goo.gl/maps/ZfTktVk9mH5QdZQA9
11. ย่านโอสุ (Osu)

ปิดท้าย ที่เที่ยวนาโกย่า ไปช้อปกันต่อที่ ถนนช้อปปิ้งโอสุ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าชิคๆ มากมาย ใครชอบเสื้อผ้ามือสองญี่ปุ่นต้องไม่พลาดเลยค่ะ มีเสื้อผ้าสวยๆ มากมาย ที่ถึงแม้จะเป็นมือสองแต่ก็คัดเกรดมาอย่างดี เดินช้อปปิ้งกันได้เพลินๆ และยังมี ถนนช้อปปิ้งโอสุโชเท็นไก (Osu Shopping District) ย่านการค้าท้องถิ่นชื่อดังของนาโกย่า อยู่ใกล้กับ วัดโอสุคันนง (Osu Kannon Temple) และไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่า ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย กระเป๋า รองเท้า ของใช้ต่างๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า แถมยังเป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ดที่ทั้งอร่อยและถูกอีกด้วย ใครอยากช้อปปิ้งแบบได้บรรยากาศญี่ปุ่นต้องมาที่นี่เลย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Tsurumai สถานี Osu Kannon ทางออก 2
แผนที่ : https://goo.gl/maps/qqC5W7G8fow8RtB28
ของกินห้ามพลาดในนาโกย่า
1. ฮิสึมะบุชิ (Hitsumabushi) ข้าวหน้าปลาไหลย่าง

อาหารนาโกย่า เมนูแรกที่แนะนำสุดๆ ก็คือ ฮิสึมะบุชิ หรือ ข้าวหน้าปลาไหลย่างในชามไม้ เป็นเมนูที่ใครมา เที่ยวนาโกย่า ต้องได้ชิม ด้วยซอสอร่อยเข้มข้นแทรกซึมไปในเนื้อปลาไหลที่ย่างอย่างดี จนหอมมันละลายในปาก เป็นสูตรเด็ดที่มีต้นกำเนิดจากนาโกย่า ความล้ำของข้าวหน้าปลาไหลแบบนาโกย่านั้นอยู่ที่วิธีการกิน ซึ่งในหนึ่งชามใหญ่ๆ จะแบ่งกินเป็น 4 ส่วน คือ
– ส่วนที่ 1 กินแบบธรรมดา เพื่อลิ้มลองรสชาติดั้งเดิมของข้าวและปลาไหลย่าง
– ส่วนที่ 2 จะทานกับวาซาบิ สาหร่าย และเครื่องเคียงอื่นๆ ที่ทางร้านจัดมาให้ ซึ่งเครื่องเคียงเหล่านั้นจะทำให้รสชาติของข้าวหน้าปลาไหลแตกต่างออกไปจากรสชาติดั้งเดิม
– ส่วนที่ 3 จะทานโดยการเติมชาเขียวลงไปเหมือนข้าวต้ม
– ส่วนที่ 4 สามารถเลือกทานในรูปแบบที่เราชอบจากสามแบบที่ผ่านมา
แค่วิธีการทานยังพิเศษขนาดนี้ บอกเลยว่าต้องมาลิ้มรสความอร่อยด้วยตัวเองให้ได้ค่ะ
ร้านแนะนำ : Houraiken
วิธีการเดินทาง : จากสถานีใต้ดิน Tenma-Cho สาย Meijo ทางออก 4 เดิน 7 นาที
เวลาเปิด-ปิด : อาหารกลางวัน 11.30 – 14.00 น. / อาหารเย็น 16.30 – 20.30 น. (ร้านปิดทุกวันพฤหัส)
เว็บไซต์ : www.houraiken.com
แผนที่ : https://goo.gl/maps/2YR3J7ZvwhSZb5iTA
2. มิโซะคัตสึ (Miso katsu) หมูทอดซอสมิโซะ

มิโซะคัตสึ หรือ หมูทอดราดซอสมิโสะ บอกเลยว่าเมนูนี้ต้องถูกใจหลายๆ คน เพราะเป็นเมนูที่ทานง่าย หมูทอดชิ้นหนานุ่ม ราดซอสมิโสะรสเข้มข้น อร่อยเต็มคำ ที่สำคัญ จานใหญ่มากกก!! เป็นการนำเอาความอร่อยของแต่ละภูมิภาคมารังสรรค์เป็นอาหารที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และลงตัวแบบนาโกย่า ที่อร่อยถูกปากคนไทยสุดๆ
ร้านแนะนำ : Yabaton
วิธีการเดินทาง : จากสถานีใต้ดิน Yaba-Cho สาย Meijo เดิน 5 นาที
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 11.00 – 21.00 น.
เว็บไซต์ : www.yabaton.com
แผนที่ : https://goo.gl/maps/v1rZFasZBjMTsxmW7
3. เทบะซากิ (Tebasaki) ปีกไก่ทอดสูตรนาโกย่า

มาต่อกันที่ อาหารนาโกย่า ที่ชื่อว่า เทบะซากิ หรือ ปีกไก่ทอดยอดนิยมแบบนาโกย่า ปีกไก่ชิ้นอวบอิ่มที่นำไปทอดจนแห้งกรอบกำลังดี ปรุงรสในสูตรพิเศษแบบฉบับนาโกย่า เป็นเมนูทานได้เพลินๆ ได้ชิมเป็นติดใจ ยังไม่ทันไรก็เหลือแต่กระดูกไก่จนพูนจานอย่างไม่รู้ตัว
ร้านแนะนำ : Yamachan
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Meitetu Nagoya ทางออก Central เดิน 7 นาที
เวลาเปิดปิด : จันทร์ – เสาร์ 17.00 – 00.15 น. / อาทิตย์และวันหยุด 17.00 – 23.15 น. (หยุดวันที่ 31 ธันวาคม – 1 มกราคม ของทุกปี)
เว็บไซต์ : www.yamachan.co.jp
แผนที่ : https://goo.gl/maps/DJz1oJHNPKBteh6CA
นาโกย่า เมืองที่ไม่เคยหลับใหล

การพัฒนาเมืองให้มีความทันสมัย ควบคู่กับการรักษาประวัติศาสตร์เพื่อดำรงไว้ซึ่งรากของวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เป็นเทรนด์ที่เมืองใหญ่ๆ ในโลกนี้หันมาให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับเมืองนาโกย่าแต่อย่างใด เพราะนาโกย่านั้นเริ่มพัฒนาเมืองด้วยคติความเชื่อนี้มาตั้งแต่กว่า 20 กว่าปีก่อนแล้ว จากการเป็นเจ้าภาพงาน World Expo ในปี ค.ศ. 1989 ทำให้นาโกย่าได้พัฒนาเมืองให้มีความทันสมัย สมกับที่เป็นเมืองแห่งเทคโนโลยี แต่ก็ไม่ละเลยเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในเมืองด้วยวิธีการคูลๆ อย่างการประดับไฟยามค่ำคืน (Illumination) ซึ่งนอกจากจะสร้างสุนทรียะในการชมเมืองแล้ว ยังช่วยลดปัญหาอาชญากรรมในเวลากลางคืนอีกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาเมืองทางด้านเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับอนุรักษ์วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกที่ดีกว่า ได้มา ทัวร์ญี่ปุ่น ในเมืองนาโกย่าที่มีหลายสิ่งหลายอย่างเจริญหูเจริญตาขนาดนี้ ก็เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ของการเที่ยวญี่ปุ่นได้ดีทีเดียวค่ะ นาโกย่ายังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย แนะนำว่าต้องไม่พลาดเลยค่ะ
