โจซังเคออนเซ็น เป็นหมู่บ้านน้ำพุร้อนชื่อดังในฮอกไกโด ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงามทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นใบไม้เปลี่ยนสีที่สดใส หรือหิมะขาวที่ปกคลุมในฤดูหนาว หากใครกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนที่ผสมผสานความสงบและความสวยงามไว้ด้วยกัน บทความนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโจซังเคออนเซ็นให้มากยิ่งขึ้น พร้อมแนะนำช่วงเวลาน่าเที่ยว และจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ถ้าพร้อมแล้วตามไปเที่ยวพร้อมกันได้เลย!
ทำความรู้จัก โจซังเคออนเซ็น

โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโกสึ-โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) ห่างจากเมืองซัปโปโรเพียง 1 ชั่วโมง มีแหล่งน้ำพุร้อนกว่า 56 แห่ง บรรยากาศของที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง ที่บรรยากาศจะรายล้อมไปด้วยป่าและทิวเขาของใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสีแดง ส้ม และเหลือง ถือเป็นช่วงไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด วิวทิวทัศน์สวยงามอลังการ ช่วยสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่พบเห็นได้เป็นอย่างดี นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังมีโรงแรมและที่พักสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมด้วยออนเซ็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติอีกหลากหลายแห่ง ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัสด้วยตัวเอง
เที่ยวโจซังเคออนเซ็น เดือนไหนดี
โจซังเคออนเซ็นตั้งอยู่ในฮอกไกโด โดยสภาพอากาศแบ่งเป็น 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งจะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันไปมากๆ ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะนิยมไปเที่ยว ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่บรรยากาศจะสวยงามไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี แต่ที่นี่ก็สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับว่าอยากไปเจอทิวทัศน์และอากาศแบบไหน เรามาดูสภาพอากาศและบรรยากาศทั้ง 4 ฤดูกันค่ะ
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่ธรรมชาติเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังผ่านฤดูหนาว หิมะละลายหมดแล้ว ป่าไม้เริ่มเขียวชอุ่ม อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ -5 ถึง 16 องศาเซลเซียส ช่วงต้นฤดูจะยังหนาวเย็นอยู่บ้างเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ป่าเขา ความพิเศษของฤดูนี้คือ ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมจะมีดอกซากุระบาน อีกทั้งยังมีการจัดเทศกาล เคริว โคอิโนะบิริ (Keiryu Koinobiri) โดยจะมีการประดับธงปลาคาร์ปสีสันสดใสกว่า 400 ตัว เหมือนกำลังว่ายน้ำบนท้องฟ้า โดยจะจัดตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)

ฤดูร้อนของที่นี่ไม่ได้ร้อนมาก อุณหภูมิประมาณ 15 – 25 องศา อากาศสดชื่นและบริสุทธิ์ รายล้อมไปด้วยป่าและภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ ช่วงนี้ธรรมชาติเขียวขจี เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น เดินป่า ชมสัตว์ เที่ยวน้ำตก พายเรือแคนูในลำธาร หรือจะสนุกกับการขี่ม้า เก็บผลไม้ และตั้งแคมป์
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)

ช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยว Jozankei Onsen คือ ฤดูใบไม้ร่วง ที่จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ -1 ถึง 20 องศาเซลเซียส อากาศเย็นสบาย เป็นช่วงเวลาไฮไลต์ที่ทั้งพื้นที่จะเต็มไปด้วยสีสันของธรรมชาติ มีเส้นทางชมธรรมชาติให้ได้เดินเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน ส่วนช่วงปลายฤดูอากาศจะเริ่มหนาวเย็นมากขึ้น
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)

ใครชอบอากาศหนาวเย็นถึงใจหน่อย แนะนำให้มาเที่ยวช่วงนี้เลย อุณหภูมิประมาณ -10 ถึง 0 องศาเซลเซียส ทั้งหมู่บ้านจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวราวกับฉากในนิทาน เหมาะกับการแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง ชมธรรมชาติสีขาว หรือใครชอบความท้าทายต้องไปเล่นสกีหิมะ มีสกีรีสอร์ทอยู่ไม่ไกลกันด้วยค่ะ
การเดินทางไปโจซังเคออนเซ็น
การเดินทางไปยังโจซังเคออนเซ็นจากเมืองซัปโปโรมีความสะดวกสบาย และสามารถเลือกได้หลายวิธี ดังนี้
1. รถบัส :
– รถบัสสาย Jotetsu Bus หมายเลข 7 และ 8 ขึ้นจากสถานีรถบัสซัปโปโร (Sapporo Station Bus Terminal) และลงที่ป้ายโจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) การเดินทางใช้เวลาประมาณ 30 ชั่วโมง
– รถบัสสาย Jotetsu Bus หมายเลข 12 ขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดินมะโคะมะไน (Makomanai Station) และลงที่ป้ายโจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
– รถบัสสายกัปปะ (Kappa Liner) เป็นรถบัสที่วิ่งตรงจากสถานีซัปโปโร สถานีโอโดริ และสถานีซุซุกิโนะ ไปยังโจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) มีให้บริการ 13 เที่ยวต่อวัน โดยการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 75 นาที แต่จะต้องจองตั๋วล่วงหน้า
2. รถยนต์ส่วนตัว : หากขับรถจากใจกลางเมืองซัปโปโรไปยังโจซังเคออนเซ็น จะใช้เวลาประมาณ 30 – 50 นาที
3. บริการรถรับส่งของโรงแรม : โรงแรมหลายแห่งในโจซังเคออนเซ็นมีบริการรถรับส่งจากสถานีซัปโปโร หรือสถานีรถไฟใต้ดินมะโคะมะไน (Makomanai Station) ทั้งนี้ควรตรวจสอบกับโรงแรมที่พักล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเดินทาง
ข้อแนะนำ : ตารางเวลาและค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนการเดินทางเพื่อความสะดวกและปลอดภัย
จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโจซังเคออนเซ็น
1. สะพานฟุตามิ (Futami Suspension Bridge)

สะพานฟุตามิ หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน โจซังเคออนเซ็น เป็นสะพานแขวนสีแดง ความยาว 80 เมตร ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สะพานนี้จะถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีสันสดใสอย่างสวยงาม เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเช็กอินกัน และยังสามารถมองเห็นแม่น้ำโทโยฮิระ (Toyohira River) ได้ด้วย
2. น้ำตกชิราอิโตะ (Shiraito Falls)

น้ำตกชิราอิโตะ เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณโจซังเคออนเซ็น ชื่อของน้ำตกแปลว่า “เส้นไหมสีขาว” เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงมีลักษณะคล้ายเส้นด้ายสีขาวบางเบา ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ เหมาะสำหรับการแวะพักผ่อนระหว่างการเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับความเย็นสดชื่นของน้ำตกและบรรยากาศรอบๆ ที่เงียบสงบได้อย่างเต็มที่ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ใบไม้โดยรอบจะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี สวยงามมากๆ
3. สวนโจซังเคออนเซ็น (Jozankei Nature Park)

สวนโจซังเคออนเซ็น เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ตั้งอยู่ในเขต โจซังเคออนเซ็น ซึ่งเต็มไปด้วยพืชพรรณหลากหลายชนิด และเป็นแหล่งที่สามารถสัมผัสกับความเงียบสงบของธรรมชาติได้ตลอดทั้งปี ภายในมีรูปปั้นพระโจซัง และบ่อน้ำร้อนสำหรับแช่มือและเท้า แต่ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ บ่อน้ำร้อนไข่ออนเซ็น ที่สามารถทำไข่ออนเซ็นได้จริง ถือเป็นกิจกรรมที่คนมาเที่ยวน้ำพุร้อนไม่ควรพลาด
4. ศาลเจ้าโจซังเค (Jozankei Shrine)

นอกจากธรรมชาติสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมี ศาลเจ้าโจซังเค ให้ได้ไปสักการะขอพรกันอีกด้วย ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1905 แต่ไม่ได้มีพระสงฆ์ประจำศาลเจ้า ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นกุมภาพันธ์ ที่นี่จะทำหน้าที่เป็นสถานที่จัด เทศกาลประจำปีโจซังเค ออนเซ็นยุกิโทโระ (Jozankei Jozankei Onsen Yukitouro) ที่จะมีเทียนหิมะกว่า 1,000 เล่ม เรียงรายกันอย่างสวยงามเต็มทางเดิน
โจซังเคออนเซ็น เป็นจุดหมายปลายทางที่รวมความงดงามของธรรมชาติและความสงบไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส หรือฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวสะอาด หมู่บ้านน้ำพุร้อนแห่งนี้ก็สามารถมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำได้แบบไม่เหมือนใคร สำหรับใครที่สนใจอยากมาสัมผัสบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ อย่ารอช้า รีบจอง ทัวร์ญี่ปุ่น มาเที่ยวกับมัชรูมทราเวลเลย!!