Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

เที่ยว โจซังเคออนเซ็น แหล่งรวมน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด

โจซังเคออนเซ็น เป็นหมู่บ้านน้ำพุร้อนชื่อดังในฮอกไกโด ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงามทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นใบไม้เปลี่ยนสีที่สดใส หรือหิมะขาวที่ปกคลุมในฤดูหนาว หากใครกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนที่ผสมผสานความสงบและความสวยงามไว้ด้วยกัน บทความนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโจซังเคออนเซ็นให้มากยิ่งขึ้น พร้อมแนะนำช่วงเวลาน่าเที่ยว และจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ถ้าพร้อมแล้วตามไปเที่ยวพร้อมกันได้เลย!


ทำความรู้จัก โจซังเคออนเซ็น

โจซังเคออนเซ็น
Credit : Sean Pavone / shutterstock.com

โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโกสึ-โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) ห่างจากเมืองซัปโปโรเพียง 1 ชั่วโมง มีแหล่งน้ำพุร้อนกว่า 56 แห่ง บรรยากาศของที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง ที่บรรยากาศจะรายล้อมไปด้วยป่าและทิวเขาของใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสีแดง ส้ม และเหลือง ถือเป็นช่วงไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด วิวทิวทัศน์สวยงามอลังการ ช่วยสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่พบเห็นได้เป็นอย่างดี นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังมีโรงแรมและที่พักสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมด้วยออนเซ็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติอีกหลากหลายแห่ง ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัสด้วยตัวเอง


เที่ยวโจซังเคออนเซ็น เดือนไหนดี

โจซังเคออนเซ็นตั้งอยู่ในฮอกไกโด โดยสภาพอากาศแบ่งเป็น 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งจะมีบรรยากาศที่แตกต่างกันไปมากๆ ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะนิยมไปเที่ยว ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่บรรยากาศจะสวยงามไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี แต่ที่นี่ก็สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับว่าอยากไปเจอทิวทัศน์และอากาศแบบไหน เรามาดูสภาพอากาศและบรรยากาศทั้ง 4 ฤดูกันค่ะ

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
Credit : jozankei.jp

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่ธรรมชาติเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังผ่านฤดูหนาว หิมะละลายหมดแล้ว ป่าไม้เริ่มเขียวชอุ่ม อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิประมาณ -5 ถึง 16 องศาเซลเซียส ช่วงต้นฤดูจะยังหนาวเย็นอยู่บ้างเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ป่าเขา ความพิเศษของฤดูนี้คือ ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมจะมีดอกซากุระบาน อีกทั้งยังมีการจัดเทศกาล เคริว โคอิโนะบิริ (Keiryu Koinobiri) โดยจะมีการประดับธงปลาคาร์ปสีสันสดใสกว่า 400 ตัว เหมือนกำลังว่ายน้ำบนท้องฟ้า โดยจะจัดตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม

ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
Credit : jozankei.jp

ฤดูร้อนของที่นี่ไม่ได้ร้อนมาก อุณหภูมิประมาณ 15 – 25 องศา อากาศสดชื่นและบริสุทธิ์ รายล้อมไปด้วยป่าและภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ ช่วงนี้ธรรมชาติเขียวขจี เหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น เดินป่า ชมสัตว์ เที่ยวน้ำตก พายเรือแคนูในลำธาร หรือจะสนุกกับการขี่ม้า เก็บผลไม้ และตั้งแคมป์

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
โจซังเคออนเซ็น
Credit : AaronChenPS2 / shutterstock.com

ช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยว Jozankei Onsen คือ ฤดูใบไม้ร่วง ที่จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ -1 ถึง 20 องศาเซลเซียส อากาศเย็นสบาย เป็นช่วงเวลาไฮไลต์ที่ทั้งพื้นที่จะเต็มไปด้วยสีสันของธรรมชาติ มีเส้นทางชมธรรมชาติให้ได้เดินเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน ส่วนช่วงปลายฤดูอากาศจะเริ่มหนาวเย็นมากขึ้น

ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
Credit : yamaoyaji / shutterstock.com

ใครชอบอากาศหนาวเย็นถึงใจหน่อย แนะนำให้มาเที่ยวช่วงนี้เลย อุณหภูมิประมาณ -10 ถึง 0 องศาเซลเซียส ทั้งหมู่บ้านจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวราวกับฉากในนิทาน เหมาะกับการแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง ชมธรรมชาติสีขาว หรือใครชอบความท้าทายต้องไปเล่นสกีหิมะ มีสกีรีสอร์ทอยู่ไม่ไกลกันด้วยค่ะ


การเดินทางไปโจซังเคออนเซ็น

การเดินทางไปยังโจซังเคออนเซ็นจากเมืองซัปโปโรมีความสะดวกสบาย และสามารถเลือกได้หลายวิธี ดังนี้

1. รถบัส :
– รถบัสสาย Jotetsu Bus หมายเลข 7 และ 8 ขึ้นจากสถานีรถบัสซัปโปโร (Sapporo Station Bus Terminal) และลงที่ป้ายโจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) การเดินทางใช้เวลาประมาณ 30 ชั่วโมง
– รถบัสสาย Jotetsu Bus หมายเลข 12 ขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดินมะโคะมะไน (Makomanai Station) และลงที่ป้ายโจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
– รถบัสสายกัปปะ (Kappa Liner) เป็นรถบัสที่วิ่งตรงจากสถานีซัปโปโร สถานีโอโดริ และสถานีซุซุกิโนะ ไปยังโจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) มีให้บริการ 13 เที่ยวต่อวัน โดยการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 75 นาที แต่จะต้องจองตั๋วล่วงหน้า

2. รถยนต์ส่วนตัว : หากขับรถจากใจกลางเมืองซัปโปโรไปยังโจซังเคออนเซ็น จะใช้เวลาประมาณ 30 – 50 นาที

3. บริการรถรับส่งของโรงแรม : โรงแรมหลายแห่งในโจซังเคออนเซ็นมีบริการรถรับส่งจากสถานีซัปโปโร หรือสถานีรถไฟใต้ดินมะโคะมะไน (Makomanai Station) ทั้งนี้ควรตรวจสอบกับโรงแรมที่พักล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการเดินทาง

ข้อแนะนำ : ตารางเวลาและค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนการเดินทางเพื่อความสะดวกและปลอดภัย


จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโจซังเคออนเซ็น

1. สะพานฟุตามิ (Futami Suspension Bridge)
โจซังเคออนเซ็น
Credit : scott mirror / shutterstock.com

สะพานฟุตามิ หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน โจซังเคออนเซ็น เป็นสะพานแขวนสีแดง ความยาว 80 เมตร ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สะพานนี้จะถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีสันสดใสอย่างสวยงาม เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเช็กอินกัน และยังสามารถมองเห็นแม่น้ำโทโยฮิระ (Toyohira River) ได้ด้วย

2. น้ำตกชิราอิโตะ (Shiraito Falls)
Credit : Photo Spirit / shutterstock.com

น้ำตกชิราอิโตะ เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณโจซังเคออนเซ็น ชื่อของน้ำตกแปลว่า “เส้นไหมสีขาว” เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงมีลักษณะคล้ายเส้นด้ายสีขาวบางเบา ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ เหมาะสำหรับการแวะพักผ่อนระหว่างการเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับความเย็นสดชื่นของน้ำตกและบรรยากาศรอบๆ ที่เงียบสงบได้อย่างเต็มที่ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้ใบไม้โดยรอบจะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี สวยงามมากๆ

3. สวนโจซังเคออนเซ็น (Jozankei Nature Park)
Credit : sapporo.travel

สวนโจซังเคออนเซ็น เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ตั้งอยู่ในเขต โจซังเคออนเซ็น ซึ่งเต็มไปด้วยพืชพรรณหลากหลายชนิด และเป็นแหล่งที่สามารถสัมผัสกับความเงียบสงบของธรรมชาติได้ตลอดทั้งปี ภายในมีรูปปั้นพระโจซัง และบ่อน้ำร้อนสำหรับแช่มือและเท้า แต่ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ บ่อน้ำร้อนไข่ออนเซ็น ที่สามารถทำไข่ออนเซ็นได้จริง ถือเป็นกิจกรรมที่คนมาเที่ยวน้ำพุร้อนไม่ควรพลาด 

4. ศาลเจ้าโจซังเค (Jozankei Shrine)
Credit : SAKAN / shutterstock.com

นอกจากธรรมชาติสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมี ศาลเจ้าโจซังเค ให้ได้ไปสักการะขอพรกันอีกด้วย ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1905 แต่ไม่ได้มีพระสงฆ์ประจำศาลเจ้า ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นกุมภาพันธ์ ที่นี่จะทำหน้าที่เป็นสถานที่จัด เทศกาลประจำปีโจซังเค ออนเซ็นยุกิโทโระ (Jozankei Jozankei Onsen Yukitouro) ที่จะมีเทียนหิมะกว่า 1,000 เล่ม เรียงรายกันอย่างสวยงามเต็มทางเดิน

โจซังเคออนเซ็น เป็นจุดหมายปลายทางที่รวมความงดงามของธรรมชาติและความสงบไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส หรือฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวสะอาด หมู่บ้านน้ำพุร้อนแห่งนี้ก็สามารถมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำได้แบบไม่เหมือนใคร สำหรับใครที่สนใจอยากมาสัมผัสบรรยากาศดี ๆ แบบนี้ อย่ารอช้า รีบจอง ทัวร์ญี่ปุ่น มาเที่ยวกับมัชรูมทราเวลเลย!!


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง