Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

เที่ยวคิวชู ญี่ปุ่น กับ 10 ที่เที่ยวดีต่อใจ ต้องไปเช็คอิน

โพสเมื่อ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไปเที่ยวกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ ถ้าใครอยาก ทัวร์ญี่ปุ่น ในบรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เน้นการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ ทะเล ภูเขา น้ำพุร้อน และประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ขอแนะนำให้ไป เที่ยวคิวชู ภูมิภาคทางใต้ของญี่ปุ่นที่มีธรรมชาติที่สวยงาม เรามารู้จักที่นี่ให้มากขึ้นกันค่ะ!

ทำความรู้จักคิวชู

“คิวชู” (Kyushu) เป็นชื่อเรียกภูมิภาคทางใต้ หนึ่งใน 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดพื้นที่ของเกาะใหญ่เป็นอันดับ 3 ประกอบไปด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ ฟุกุโอกะ (Fukuoka), โออิตะ (Oita), ซากะ (Saga), นางาซากิ (Nagasaki), คุมาโมโตะ(Kumamoto), มิยาซากิ (Miyazaki) และ คาโกชิม่า (Kagoshima) ด้วยความที่เป็นเกาะทางใต้ ทำให้คิวชูมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ธรรมชาติที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของแนวภูเขาไฟที่ยังมีพลังงานอยู่หลายลูก รวมถึงมีแหล่งน้ำพุร้อนออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากมาย อากาศอบอุ่นและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

การเดินทางจากประเทศไทย มีเที่ยวบินตรงจากหลายสายการบิน ไปลงที่เมืองหลวงของเกาะคิวชูอย่างฟุกุโอกะ และสามารถเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในคิวชูได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งรถไฟธรรมดา รถไฟท่องเที่ยว รถไฟความเร็วสูง หรือรถบัส

มาถึงตรงนี้แล้ว เราไปตะลุยกับ 10 ที่เที่ยวดินแดนเกาะคิวชู มาดูกันว่ามีที่ไหนน่าไปเช็คอินบ้าง

1. เมืองเบปปุ (Beppu) – จ.โออิตะ

Credit : aaron90311 / canva.com

แหล่งออนเซ็นธรรมชาติชื่อดังแห่งคิวชู เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องบ่อนรกน้ำพุร้อนทั้ง 8 บ่อ ประกอบไปด้วย บ่อทะเลเดือด (Umi Jigoku), บ่อโคลนเดือด (Oniishibozu Jigoku), บ่อนรกสีขาว (Shiraike Jigoku), บ่อนรกกระทะทองแดง (Kamado Jigoku), หุบเขาปีศาจ (Oniyama Jigoku), บ่อสีเลือด (Blood Hell-Chinoike Jigoku), น้ำพุนรก (Tatsumaki Jigoku) และ หุบเขานรก (Yama Jigoku) แม้ว่าชื่ออาจจะดูโหด แต่ความสวยงามนี่ต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ ซึ่งแต่ละบ่อจะมีจุดเด่นและสีสันที่ต่างกันไป เช่น สีฟ้า สีขาว หรือสีแดง สาเหตุเพราะดินที่อยู่ในบริเวณนั้นทำปฏิกิริยากับน้ำพุร้อนนั่นเอง นอกจากการชมความงดงามของบ่อน้ำพุร้อนต่างๆ แล้ว ในเมืองเบปปุก็ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกเพียบ ไม่ว่าจะเดินช้อปปิ้ง แวะชิมอาหารท้องถิ่น หรือนั่งแช่เท้าในน้ำพุร้อนธรรมชาติก็เพลินไปอีกแบบ

2. หมู่บ้านยูฟุอิน ฟลอร์รัล (Yufuin Floral Village) – จ.โออิตะ

Credit : floral-village.com

หมู่บ้านจำลองสไตล์ยุโรปโบราณ สร้างด้วยอิฐแบบคลาสสิคสุดน่ารัก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็น่าถ่ายรูปเก็บไว้ ถูกใจนักท่องเที่ยวที่มา เที่ยวคิวชู สุดๆ เพราะหมู่บ้านนี้เงียบสงบ บรรยากาศดี โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม อาหารก็อร่อย เดินเล่นในหมู่บ้านไปเรื่อยๆ จะเจอกับ ทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) ที่วิวสวยมากๆ มองเห็นภูเขาเป็นฉากหลัง ซึ่งตรงนี้เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในฤดูใบไม้ร่วงด้วยค่ะ เดินต่ออีกหน่อยไปขอพรกันที่ ศาลเจ้าเทนโซ (Tenso Shrine) ศาลเจ้าเล็กๆ ริมทะเลสาบ ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ เป็นหมู่บ้านที่เหมาะกับการเดินเล่น ได้บรรยากาศยุโรปและญี่ปุ่น พร้อมกับวิวทิวทัศน์ที่สวยเกินคำบรรยาย

3. ศาลเจ้าดาไซฟุ เท็มมังกู (Dazaifu Tenmangu) – จ.ฟุกุโอกะ

Credit : Sanga Park / canva.com

ศาลเจ้าชื่อดังแห่งฟุกุโอกะ เป็นที่เคารพนับถือของคนในท้องถิ่น และจะมีเหล่านักเรียนมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก เพราะที่นี่เป็นสถานที่ฝังศพของ “ซุงาวาระ มิจิซาเนะ” นักปราชญ์ชื่อดังในสมัยก่อนที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเทพแห่งการศึกษา ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องการเรียน นักเรียนเตรียมสอบมักจะมาขอพรให้สมหวัง สอบผ่านเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้รอบๆ ศาลเจ้ายังมีร้านขายของที่ระลึก และร้านขายของกินตลอดทาง พี่เห็ดแอบกระซิบว่าขนมโมจิย่างไส้ถั่วแดงที่นี่เด็ดมากๆ อีกทั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิประมาณเดือนมีนาคม ก็จะได้ชมดอกบ๊วยบานสะพรั่งไปทั่วศาลเจ้าอีกด้วย

4. ฟุกุโอกะทาวเวอร์ (Fukuoka Tower) – จ.ฟุกุโอกะ

Credit : pixabay.com
Credit : fukuokatower.co.jp

มา ทัวร์ฟุกุโอกะ ทั้งที ถ้าไม่มาที่นี่ก็เหมือนยังมาไม่ถึง เป็นตึกที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ด้วยความสูง 234 เมตร ภายในตึกมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และพิพิธภัณฑ์ ส่วนด้านบนของตัวตึกสามารถชมวิวทั้งตัวเมืองฟุกุโอกะและอ่าวฮากาตะได้แบบ 360 องศา ยิ่งบรรยากาศยามค่ำคืนที่ตัวตึกจะเปิดไฟแสงสีสวยงามมากๆ

5. คาวาจิ ฟูจิ การ์เดน (Kawachi Fuji Garden) – จ.ฟุกุโอกะ

Credit : visit-fukuoka-japan.com

ทัวร์ญี่ปุ่น ช่วงฤดูใบไม้ผลิช่างเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ มองไปทางไหนก็เห็นความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ ที่สวนแห่งนี้ก็เช่นกัน ในช่วงปลายเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม เราจะได้ชม อุโมงค์ดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า ดอกฟูจิ เป็นดอกไม้ที่มีลักษณะเป็นพวงห้อยระย้า โดยที่นี่จะปลูกเป็นอุโมงค์ในระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ทำให้ที่นี่ได้รับคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

6. สวนสนุกเฮาส์เทนบอช (Huis Ten Bosch) – จ.นางาซากิ

Credit : huistenbosch.co.jp

สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในคิวชู โดยจำลองเอาบรรยากาศหมู่บ้านในฮอลแลนด์มาไว้ที่นี่ จุดเด่นของที่นี่จึงอยู่ที่กังหันลมขนาดใหญ่ พร้อมกับทุ่งดอกทิวลิปสีสันสดใสมากกว่า 300,000 ต้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งดอกไม้ที่นี่จะปลูกหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็ไม่ซ้ำ มีมุมถ่ายรูปเพียบ จัดชุดสวยๆ มาถ่ายรูปกันได้เลย นอกจากนี้ภายในสวนสนุกยังมีการจัดอีเวนท์น่าสนใจตลอดทั้งปีอีกด้วย

7. ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) – จ.คุมาโมโตะ

Credit : pixabay.com

เที่ยวคิวชู ทั้งทีจะพลาดสถานที่อันงดงามทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ไปได้ยังไง กับปราสาทขนาดใหญ่ที่สวยงาม ภายนอกเป็นสีดำดูน่าเกรงขาม เป็นปราสาทที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 3 ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ที่นี่เคยใช้เป็นป้อมปราการป้องกันกองทัพข้าศึกในสมัยก่อน ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคุมาโมโตะ และเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งบนเกาะคิวชูเลยค่ะ

8. ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ (Yutoku Inari Shrine) – จ.ซากะ

Credit : jw-webmagazine.com

มาขอพรกับหนึ่งใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น มีอายุนานนับร้อยปี จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือเสาโทริอิสีแดงที่ตั้งเด่นเป็นสง่า พร้อมกับสถาปัตยกรรมโบราณที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม มีสะพานสีแดงและแม่น้ำสายเล็กๆ บรรยากาศโดยรอบสงบ ร่มรื่น นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นนิยมมาไหว้ขอพรจากเทพอินาริในเรื่องของธุรกิจการค้า การเกษตรเก็บเกี่ยวพืชผลต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ที่ด้านบนของศาลเจ้ายังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้ชมซากุระ และช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้เห็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่อยู่โดยรอบ

9. ช่องเขาทาคาชิโฮะ (Takachiho Gorge) – จ.มิยาซากิ

Credit : takachiho-kanko.info
Credit : takachiho-kanko.info

ชวนสายธรรมชาติมาเช็คอินในดินแดนลึกลับที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะคิวชู เพราะการเดินทางเข้าไปที่นี่ค่อนข้างลำบาก แต่พอได้เห็นภาพความงดงามของสายน้ำตกที่ไหลจากช่องผา พร้อมกับความเขียวชอุ่มของต้นไม้นานาพันธุ์ ก็ทำให้ลืมเรื่องการเดินทางไปเลย สัมผัสความงามของหุบเขาอย่างใกล้ชิดด้วยการพายเรือ พร้อมกับชม น้ำตกมานาอิโนทาคิ (Manainotaki) ที่มีความสูงถึง 17 เมตร เป็นที่เที่ยวธรรมชาติที่วิวสวยแปลกตาและยิ่งใหญ่อลังการ หาที่ไหนไม่ได้เลยค่ะ

10. อิบุสึกิ ออนเซ็น (Ibusuki onsen) – จ.คาโกชิมะ

Credit : visit-kyushu.com

แช่ออนเซ็นในน้ำร้อนมันธรรมดาไป มีโอกาสได้มา เที่ยวคิวชู ในจังหวัดคาโกชิมะ เมืองริมทะเลที่มีภูเขาไฟแบบนี้ ก็ต้องได้นอนแช่ตัวในออนเซ็นบ่อทรายชมพร้อมวิวทะเลไปด้วย เป็นการเปิดประสบการณ์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยเป็นออนเซ็นที่ให้เราใส่ชุดยูกาตะและนอนในทรายร้อนธรรมชาติสีดำ ซึ่งเป็นทรายที่ได้รับความร้อนจากกระแสลาวาที่อยู่ใต้ดิน ความร้อนจากทรายจะทำให้รู้สึกสบายตัว และยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยขับของเสียออกทางเหงื่ออีกด้วย เป็นการทำสปาธรรมชาติที่หาได้ที่นี่เท่านั้น

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ 10 สถานที่ เที่ยวคิวชู ที่พี่เห็ดรวบรวมมาให้ จะเห็นได้ว่าในภูมิภาคคิวชูนั้นมีความหลากหลายทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นทะเล ภูเขา บ่อน้ำพุร้อน รวมทั้งสถานที่ประวัติศาสตร์และศาลเจ้า ล้วนแล้วแต่มีความสวยงาม น่าประทับใจ หากใครที่กำลังวางแผนจะไป ทัวร์ญี่ปุ่น อยากให้จดลงลิสต์ไว้ รับรองว่าจะได้เปิดมุมมองใหม่ และสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง