Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

Safe Trip เที่ยวอย่างปลอดภัย ในทุกสถานการณ์

โพสเมื่อ


       
“แผ่นดินไหว” และ “สึนามิ” ถือเป็นภัยธรรมชาติร้ายแรงที่มักจะเกิดขึ้นโดยมีความสัมพันธ์กันเสมอ เพราะเมื่อใดที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวในมหาสมุทรตามมาตราริกเตอร์ตั้งแต่ 7-7.9 ก็ให้คาดการณ์ไว้ก่อนได้เลยว่า สึนามิอาจจะเกิดตามมาในไม่ช้า โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงอย่างริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก อย่างเช่นฮาวาย แคลิฟอร์เนีย เม็กซิโก เป็นต้น และพื้นที่ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแทบทั้งสิ้น ทั้งนี้ Dr. Marla Petal ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบัน Risk RED ซึ่งได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันภัยพิบัติได้กล่าวว่า” สำหรับนักท่องเที่ยว สิ่งสำคัญที่จะ safe trip การเดินทางท่องเที่ยวของคุณให้ปลอดภัยก็คือ การมีสตินึกคิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยเฉพาะของที่อาจจะปลิว ตก หรือเลื่อนมากระทบจนทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ” ทั้งนี้คุณสามารถศึกษาหาความรู้ พร้อมกับทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของแผ่นดินไหวและสึนามิอย่างถ่องแท้ รวมถึงตรวจสอบแผนที่แผ่นดินไหวแบบเรียลไทม์ได้เพิ่มเติมที่ Earthquake & Tsunami

Safe Trip เที่ยวอย่างปลอดภัย ในทุกสถานการณ์

และทั้งหมดนี้ก็คือเทคนิคเตรียมความพร้อมและเอาตัวรอดสำหรับ safe trip การเที่ยวให้ปลอดภัย หากเกิดสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

     1. สอบถามเบื้องต้นกับทางโรงแรม สำหรับการเที่ยวแบบ safe trip ข้อแรก คุณอาจสอบถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ว่าโรงแรมแห่งนี้มีระบบป้องกันความปลอดภัย หรือเคยมีการฝึกซ้อมแผนอพยพฉุกเฉินหรือไม่ จากนั้นให้ลองสังเกตหาจุดที่เป็นสัญญาณเตือนภัยหรือสัญญาณเตือนอัคคีภัยว่ามีอยู่ตรงไหนบ้าง หรือหากโรงแรมที่คุณเข้าพักนั้นอยู่ริมทะเลในพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะเกิดสึนามิ ก็ให้สอบถามถึงแผนอพยพของพวกเขาหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น รวมถึงจุดที่ปลอดภัยที่สุดในโรงแรม ซึ่งคำถามทั้งหมดนี้ไม่ใช่คำถามที่เสียมารยาทแต่อย่างใด และพนักงานจะไม่มองว่าคุณบ้าที่ถามคำถามประเภทนี้ ตรงกันข้าม พวกเขาจะให้คำตอบสำหรับทุกคำถามของคุณด้วยความเต็มใจ

      2. ประเมินสภาพแวดล้อมภายในห้องพัก เมื่อได้ห้องพักเรียบร้อยแล้ว ให้สำรวจภายในห้องพัก และเพื่อความสบายใจคุณอาจจะปรับเปลี่ยนห้องพักของคุณเพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยการย้ายเตียงให้ห่างจากตู้เสื้อผ้ามากที่สุด จนแน่ใจว่าอยู่ในรัศมีที่ปลอดภัย จากนั้นให้มองหาถังดับเพลิงที่อยู่ใกล้ที่สุด และคุณต้องแน่ใจว่าประตูฉุกเฉินหรือประตูหนีไฟไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้

     3. เขียนแผนเรียกรวมพลสำหรับครอบครัว ในขั้นตอนการเตรียมตัวออกเดินทางท่องเที่ยว นอกจากเรื่องของการเดินทาง แผนการเที่ยว เสื้อผ้า ยารักษาโรค ฯลฯ สิ่งหนึ่งที่คุณควรจะเตรียมเอาไว้เช่นกันก็คือ แผนเรียกรวมพล safe trip โดยนัดหมายสถานที่เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้มาเจอกันในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน โดยคุณต้องมั่นใจว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด เพราะในช่วงเกิดเหตุการณ์ใดๆ ก็แล้วแต่ ความวุ่นวายจะทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นเรื่องที่ยากมาก และอาจทำให้สมาชิกในครอบครัวพลัดหลงกันได้

     4. พกพาไฟฉาย ซึ่งไฟฉายที่คุณควรนำติดตัวไปด้วยควรเป็นไฟฉาย LED ระดับโปรฯ เพราะจะให้แสงสว่างได้นานกว่าไฟฉายธรรมดา ที่สำคัญข้อดีของการพกไฟฉายคือนอกจากให้แสงสว่างแล้ว ยังใช้ส่องเพื่อขอความช่วยเหลือได้อีกด้วย ทั้งนี้นักท่องเที่ยวไม่ควรจุดไม้ขีดในกรณีที่เกิดเหตุแล้วไฟดับ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระเบิดได้หากมีการรั่วไหลของก๊าซในบริเวณใกล้ๆ

    5. คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยทางน้ำ พกพายาเม็ดโปแทสเซียมไอโอไดด์ (ไอโอดีนเม็ด) และเครื่องกรองน้ำแบบพกพาติดตัวไปด้วย เพราะไอโอดีนเม็ดจะช่วยป้องกันการดูดซึมของสารกัมมันตรังสี สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ส่วน เครื่องกรองน้ำแบบพกพานั้นมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก และมีคุณภาพสูงในการกรองน้ำดื่ม ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งอาจมีสารเคมีหรือสารกัมมันตรังสีปะปนมากับน้ำ ทำให้ไม่สามารถดื่มน้ำตามธรรมชาติได้

     6. อย่าลืมนำหน้ากากป้องกันฝุ่นติดตัวไปด้วย ไม่เพียงเฉพาะเหตุการณ์แผ่นดินไหวเท่านั้น แต่ในเหตุการณ์ไฟป่าที่อินโดนีเซียเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก โดยหน้ากากป้องกันฝุ่น N95 นั้นมีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันอนุภาคอันตรายของฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนที่ปนเปื้อนอยู่ในบรรยากาศได้ถึง 10 เท่าของค่ามาตรฐานความปลอดภัยของสารนั้นๆ

      7. ก้มต่ำ! หาที่กำบัง! ยึดไว้ให้แน่น! เมื่อคุณรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนใดๆ ให้มองหาโต๊ะตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วหมอบตัวลง หลบเข้าไปใต้โต๊ะ และยึดขาโต๊ะไว้ให้แน่นจนกว่าแรงสั่นสะเทือนจะจบสิ้นลง แต่หากไม่มีโต๊ะ ให้ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วซุกหน้าลงกับเตียง พลางใช้หมอนมาคลุมทับศีรษะและลำคอเอาไว้ เนื่องจากเป็นจุดเสี่ยงที่สุดที่จะได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปหลบภัยในอ่างอาบน้ำ หรือบริเวณที่อยู่ใกล้ๆ กับกระจก กระเบื้องอย่างเด็ดขาด เพราะมันอาจจะแตกหักและทำอันตรายคุณได้ง่ายๆ

     8. รู้สัญญาณเตือนภัยสึนามิ ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้ายิ่งขึ้น ทำให้ก่อนเกิดสึนามิ นักท่องเที่ยวจะได้รับสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าเพื่อให้มีเวลาหลบหนีได้ทันท่วงที โดยการทำงานของสัญญาณเตือนภัยนี้จะเกิดขึ้นหลังจากทุ่นที่ติดตั้งในทะเลได้รับรายงานถึงแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของคลื่นในทะเลอย่างละเอียดและตลอดเวลา จากนั้นจึงส่งข้อมูลผ่านดาวเทียมและถ่ายทอดสัญญาณมายังสถานีภาคพื้นดิน เพื่อดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด จากนั้นจึงส่งสัญญาณเตือนภัยผ่านดาวเทียมไปยังหอเตือนภัยต่างๆ ตามแนวชายฝั่ง ซึ่งการเตือนภัยจะมีอยู่ 4 ขั้นตอนด้วยกันคือ แจ้งข่าว เฝ้าระวัง เตือนภัย และยกเลิก หรือหากไม่ได้ยินสัญญาณเตือนก็ให้สังเกตระดับน้ำทะเลที่จะถอยร่นลงไปอย่างผิดปกติ

     9. หนีขึ้นสู่ที่สูง หากย้อนเหตุการณ์ไปช่วงแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดียปี 2004 และแผ่นดินนอกชายฝั่งแปซิฟิกโทโฮกุปี 2011 จะสังเกตเห็นว่าส่วนใหญ่ผู้ที่เสียชีวิตจะอยู่บนพื้นดินหรือในอาคารที่ต่ำกว่า 2 ชั้น ดังนั้นวิธีเอาตัวรอดก็คือการพาตัวเองขึ้นไปอยู่ในที่สูงให้มากที่สุด ไม่ว่าจะบนเขาหรือบนตึกบนอาคาร ซึ่งส่วนใหญ่โรงแรมในพื้นที่ชายฝั่งจะสร้างเป็นอาคารคอนกรีตสูงอยู่แล้ว ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถหลบหนีคลื่นสึนามิโดยขึ้นไปบนชั้นสูงๆ ได้

“ภัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ คือสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถควบคุมหรือคาดเดาได้ ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะช่วย safe trip และทำให้เรา “รอด” ได้ก็คือการป้องกันและเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ โดยเฉพาะภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้อย่างกะทันหันและตลอดเวลา โดยไม่เลือกฤดูกาลอย่างแผ่นดินไหว และสึนามิ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่? ตอนไหน? และที่ไหน?”

อย่างไรก็ตาม บทความนี้มัชรูมทราเวลไม่ได้ต้องการให้คุณรู้สึกกลัวธรรมชาติจนไม่กล้าเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน แต่เราแค่อยากให้คุณเตรียมพร้อม เพื่อให้คุณสามารถ safe trip เที่ยวอย่างปลอดภัย ในทุกสถานการณ์ เท่านั้น!!

—————
Mushroom Travel มี โปรแกรมทัวร์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id: @mushroomtravel