Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

ห้ามพลาด! สิงคโปร์ ลดทั้งเกาะ 2022 งานเซลล์สุดอลัง หนึ่งปีมีครั้ง!

โพสเมื่อ

กลับมาอีกครั้ง! สำหรับงานเซลล์ครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ กับมหกรรมที่มีชื่อว่า Great Singapore Sale 2022 ที่มีสินค้าให้เลือกช้อปมากมายทั่วทั้งเกาะไม่แพ้ทางฝั่งฮ่องกงเลยล่ะค่ะ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทศกาลเซลล์ที่ขาช้อปหลายคนรอคอยกับ สิงคโปร์ ลดทั้งเกาะ เพราะเป็นพิกัดที่อยู่ใกล้เมืองไทย ไปช้อปง่ายๆ แถมยังไปเที่ยวง่าย แค่ฉีดวัคซีนครบก็เข้าได้โดยไม่ต้องกักตัว ใครมีแพลนจะไป ทัวร์สิงคโปร์ ช้อปปิ้งฟินๆ ห้ามพลาด หนึ่งปีมีครั้งเท่านั้น! ว่าแต่งานเซลล์นี้จะมีอะไรน่าสนใจ หรือมีพิกัดไหนน่าช้อปบ้าง ตามพี่เห็ด มัชรูมทราเวล ไปชมเลยจ้าา…!!

Credit : pixabay.com

สำหรับงาน Great Singapore Sale 2022 สิงคโปร์ ลดทั้งเกาะ
ปีนี้จะจัดตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน – 10 ตุลาคม 2565

ไปช้อปกระจายกับงานเทศกาล Great Singapore Sale มหกรรมช้อปปิ้งครั้งยิ่งใหญ่ของสิงคโปร์ ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปกติจะจัดช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม หรือ เดือนกันยายน-ตุลาคม ซึ่งงานนี้บรรดาร้านค้าปลีกในสิงคโปร์จะลดราคาสินค้าสูงสุดถึง 70% เลยทีเดียว มีตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และของเล่น ถูกใจทุกเพศทุกวัยแน่นอน และไม่ใช่แค่การลดราคาสินค้าเท่านั้น แม้แต่บริการต่างๆ เช่น ห้องพัก ร้านอาหาร สปา การเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ก็มีส่วนลดให้เช่นกัน และสิทธิพิเศษอีกอย่างสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเรา ก็ยังสามารถทำ Refund คืนภาษีได้อีกด้วย บอกเลยว่า ทัวร์สิงคโปร์ ช่วงนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!

งานนี้มีเวลาให้ไปช้อป สิงคโปร์ ลดทั้งเกาะ ได้ยาวๆ ซึ่งในช่วงนี้ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ บางแห่งก็จะเปิดให้บริการไปจนเกือบเที่ยงคืนเลยค่ะ นอกจากร้านค้าในห้างสรรพสินค้าแล้ว ร้านค้าเล็กๆ ในย่านท้องถิ่นอย่าง ไชน่าทาวน์ ลิตเติ้ลอินเดีย หรือ ฮาจิเลน ก็ร่วมลดราคาด้วยเช่นกัน ใครอยากไปช้อปที่ไหน ไปดูแหล่งช้อปปิ้งและสินค้าแนะนำกันเลยจ้า


แหล่งช้อปปิ้งที่ร่วมรายการ

Credit : visitsingapore.com

– ถนนออร์ชาร์ด (Orchard Road) ถนนช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ซึ่งเต็มไปด้วยศูนย์การค้าสุดหรู และร้านค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลกที่เรียงรายไปตามถนนความยาวกว่า 2.2 กิโลเมตร มี แหล่งช้อปปิ้ง สิงคโปร์ มากมาย ทั้ง Plaza Singapura, Orchard Plaza, OG Orchard Point, The Centre Point, Midpoint Orchard, 313@Somerset, The Heeren, Mandarin Gallery, Takashimaya Shopping Centre, Paragon, Lucky Plaza, Tangs Plaza, Far East Plaza, Shaw House, Palais Renaissance, Delfi Orchard, Tanglin Shopping Centre, Forum The Shopping Mall, Ion Orchard, Wisma Atria เป็นพิกัดยอดฮิตสำหรับขาช้อป สิงคโปร์ ลดทั้งเกาะ เลยค่ะ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Orchard

Credit : pixabay.com

– ซันเทคซิตี้ (Suntec City) ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่มีทั้งหมด 5 ตึก และมีจุดเด่นซึ่งเป็นไฮไลท์อยู่ที่น้ำพุขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็น น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ส่วนภายในศูนย์การค้านั้นประกอบไปด้วยร้านค้ากว่า 400 ร้าน ซึ่งมีทั้งสินค้าแฟชั่นที่เป็นแบรนด์นำเข้าและแบรนด์จากสิงคโปร์
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Esplanade เดินไปที่ Suntec City

Credit : marinabaysands.com

– มารีน่าเบย์แซนด์ (Marina Bay Sand) ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่โรงแรมที่มีคาสิโนและจุดชมวิวเท่านั้น แต่ด้านล่างยังเป็นศูนย์การค้าสุดหรูขนาดใหญ่ ที่ภายในเต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์สิงคโปร์และแบรนด์เนมจากทั่วโลกเลยทีเดียว
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Bayfront

Credit : vivocity.com.sg

– วีโว่ซิตี้ (Vivo City) อีกหนึ่งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเกาะ Sentosa ซึ่งสามารถเดินเท้าไปได้ หรือจะนั่ง Sentosa Express ข้ามไปก็สะดวกสบาย นอกจากนี้ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ริมน้ำ จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนเดินเล่นและถ่ายรูปเป็นอย่างมาก
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MRT สถานี HarbourFront

Credit : visitsingapore.com

– บูกิส (Bugis) คือถนนที่เป็นย่านช้อปปิ้งซึ่งเต็มไปด้วยทางเดินในร่มและแผงร้านค้ากว่า 600 แห่ง โดยมีการผสมผสานความสมัยใหม่และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะไว้ได้อย่างลงตัว และยังมีที่เที่ยว Street Art ยอดฮิตอย่าง ฮาจิ เลน (Haji Lane) อีกด้วย จึงทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมจากวัยรุ่นที่ชื่นชอบความแตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงยังมีห้างสรรพสินค้าน่าช้อปอย่าง Bugis Junction อีกด้วย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Bugis

Credit : visitsingapore.com

– มุสตาฟาเซ็นเตอร์ (Mustafa Center) ศูนย์การค้าในย่านลิตเติ้ลอินเดียที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ภายในเต็มไปด้วยสินค้าราคาถูกมากมาย โดยเฉพาะสินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่มาจากแถบอินเดียและตะวันออกกลาง มีตั้งตั้งแต่ของกิน ของใช้ ไปจนถึงของฝากจากสิงคโปร์ ซื้อไปฝากเพื่อนๆ ได้เลย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Farrer Park ทางออก H

Credit : Fooby / commons.wikimedia.org

– ซิมลิมสแควร์ (Sim Lim Square) ศูนย์รวมอุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ที่มีขายตั้งแต่คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และกล้องถ่ายรูป เป็นต้น แต่ใครจะซื้อสินค้าที่นี่ต้องเช็คราคาและคุณภาพสินค้าให้ดีด้วยนะ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Rochor

Credit : pixabay.com

– ไชน่าทาวน์ (China Town) ย่านร้านค้าในสิงคโปร์ที่ให้บรรยากาศคล้ายกับเยาวราชและสำเพ็งในบ้านเรา เต็มไปด้วยสินค้านำเข้าจากจีนที่ส่วนใหญ่มีราคาถูก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ขนม ผลไม้ ของฝาก ของที่ระลึก อีกทั้งยังมีร้านอาหารจีนรสชาติดีให้เลือกชิมอีกมากมาย ในย่านนี้มีที่เที่ยวสำคัญของสิงคโปร์อย่าง วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) นั่นเอง
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Chinatown


สินค้าแนะนำสำหรับขาช้อป

Credit : Hans Olav Lien / commons.wikimedia.org

– สินค้าแบรนด์ดังของสิงคโปร์ หลักๆ ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมหิ้วกลับมาก็ได้แก่ สินค้าแบรนด์ Kwanpen ซึ่งเป็นกระเป๋าและเครื่องหนังสุดหรู รวมถึง Charles & Keith แบรนด์แฟชั่นกระเป๋า เครื่องประดับ และรองเท้าคุณภาพดี ที่ราคาถูกกว่าที่เมืองไทยมากมาย

– สินค้าแบรนด์ดังจากต่างประเทศ ซึ่งจะมีราคาที่ถูกลงในช่วงเซลล์และทำการคืนภาษีได้ด้วย

– น้ำหอมและเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าขายปลีกหรือสินค้าเป็นเซ็ต ช่วงที่น่าหิ้วกลับบ้านมากที่สุดก็คือในช่วงเซลล์นี่แหละค่ะ และอีกแหล่งที่พลาดไม่ได้สำหรับการซื้อหาน้ำหอมราคาถูกแบบสุดๆ ก็คือที่มุสตาฟาเซ็นเตอร์

– โทรศัพท์มือถือและสินค้าไอที ที่สิงคโปร์ก็มีหลายยี่ห้อให้เลือก อีกทั้งอาจจะมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ออกมาเร็วกว่าที่เมืองไทยด้วย

– ของกิน และขนมต่างๆ ซึ่งเป็นอาหารประจำท้องถิ่น ที่บางอย่างก็มีหน้าตาที่คล้ายกับอาหารบ้านเรา แต่รสชาติอาจจะแตกต่างกันไปบ้าง


ขั้นตอนการขอคืนภาษี สิงคโปร์

  1. ก่อนช้อปปิ้งควรเช็คเสียก่อนว่าร้านค้าที่เราจะซื้อสามารถทำเรื่องคืนภาษีได้ไหม โดยสังเกตจากป้าย Tax Free ที่ติดอยู่ที่หน้าร้านหรือที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน หรือหากไม่แน่ใจจะถามพนักงานในร้านโดยตรงเลยว่าทำ Tax Refund ได้หรือไม่
  2. ลูกค้าจะสามารถขอคืนภาษีได้ เมื่อซื้อสินค้าภายในร้านเดียวกันในมูลค่ารวม 100 ดอลลาร์สิงค์โปร์ขึ้นไป และสามารถรวมบิลได้ไม่เกิน 3 ใบ โดยต้องเป็นยอดที่ซื้อภายในวันเดียวกันเท่านั้น
  3. เมื่อซื้อสินค้ามูลค่าครบตามเงื่อนไขแล้ว ในระหว่างนำสินค้าไปคิดเงินให้แจ้งพนักงานว่าขอทำ Tax Refund จากนั้นจึงยื่นพาสปอร์ตพร้อมชำระเงินให้แก่พนักงาน โดยจะชำระเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตก็ได้ เสร็จแล้วก็จะได้รับเอกสาร eTRS Ticket พร้อมใบเสร็จ เพื่อนำไปขอคืนเงินที่สนามบิน
  4. เมื่อถึงสนามบิน ให้ตรงไปยังจุดให้บริการขอคืนภาษีก่อนเช็คอินขึ้นเครื่อง โดยสังเกตที่ป้าย GST Refund ซึ่งอยู่บริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาออก หรือสอบถามกับพนักงานภาคพื้น
  5. กรอกข้อมูลในเครื่อง eTRS Self-Help Kiosk ซึ่งมีหลายภาษาให้เลือกรวมทั้งภาษาไทย โดยทำตามข้อมูลไปเรื่อยๆ จนกระทั่งขั้นตอนสุดท้าย เครื่องจะถามว่าคุณต้องการรับคืนเป็นเงินสดหรือผ่านบัตรเครดิต แต่หากเครื่องไม่อนุมัติการคืนเงินภาษี ให้ติดต่อที่เจ้าหน้าที่ที่ Custom Inspection Counter เพื่อตรวจสอบสินค้าก่อนอนุมัติ
  6. กรณีขอคืนผ่านบัตรเครดิตให้นำบัตรเครดิตที่ต้องการไปรูดที่เครื่อง จากนั้นคุณก็จะได้รับเงินคืนภายใน 10 วัน แต่ถ้าต้องการเป็นเงินสด หลังจากผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองไปแล้ว ให้เดินตามป้าย GST Refund ไปเรื่อยๆ กระทั่งถึง Central Refund Counter ก็ขอรับเงินได้ทันที

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์สิงคโปร์ ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง