Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

34 ที่เที่ยวจีน 2025 รวมทุกพิกัดฮิต แลนด์มาร์กเด็ดที่ต้องไป !!

กระแสเที่ยวจีนมาแรงจริงๆ สำหรับช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่เปิดฟรีวีซ่าให้กับคนไทย ก็มีเหล่านักท่องเที่ยวเปิดใจไป ทัวร์จีน กันมากขึ้น บอกได้เลยว่าเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความผสมผสานทั้งวัฒนธรรมเก่าแก่ ธรรมชาติยิ่งใหญ่ และความทันสมัย รวมกันได้อย่างลงตัว วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะขอพาเพื่อนๆ ไปเช็คลิตส์ 34 ที่เที่ยวจีน เด็ดๆ ทั้งแลนด์มาร์กสุดฮิต และที่เที่ยวมาแรง ต้องไปให้ได้สักครั้ง! ตามมาดูกันว่า เมืองจีนมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง

1. กำแพงเมืองจีน (The Great Wall Of China) – ปักกิ่ง

ที่เที่ยวจีน
Credit : aphotostory / shutterstock.com

เที่ยวจีน ทั้งที แลนด์มาร์กที่พลาดไม่ได้ก็คือ กําแพงเมืองจีน หรือ กำแพงหมื่นลี้ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่สร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์ มีความยาวกว่า 20,000 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศจีน แบ่งออกเป็นด่านต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมได้ ด่านยอดนิยมได้แก่ ด่านปาต้าหลิง (Badaling) ซึ่งเป็นจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม หรือ ด่านจวียงกวน (Juyongguan) ที่ตั้งอยู่ใกล้กรุงปักกิ่งที่สุด เดินทางสะดวก เที่ยวง่าย นอกจากนี้ยังมีด่านอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวด่านไหนดี พี่เห็ดรวบรวมข้อมูลด่านน่าเที่ยวใกล้กรุงปักกิ่งมาให้แล้ว ที่นี่


2. พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) – ปักกิ่ง

ที่เที่ยวจีน
Credit : ABCDstock / shutterstock.com

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดได้เมื่อมาเที่ยวปักกิ่งก็คือ พระราชวังต้องห้าม หรือ “กู้กง” พระราชวังเก่าแก่อายุกว่า 600 ปี มีขนาดใหญ่กว่า 720,000 ตารางเมตร ที่มาของชื่อพระราชวังต้องห้ามคือ ในอดีตเป็นที่ประทับของจักรพรรดิ ประชาชนทั่วไปจึงไม่สามารถเข้าไปได้ ปัจจุบันมีการพัฒนามาเป็น พิพิธภัณฑ์กู้กงแห่งชาติ (Palace Museum) และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ภายในพระราชวังมีการแบ่งออกเป็นตำหนักย่อยต่างๆ ที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป เป็น ที่เที่ยวจีน ที่สามารถเที่ยวได้ทั้งวันเลยค่ะ


3. ประตูสวรรค์ (The Heaven’s Gate of Tianmen Shan) – จางเจียเจี้ย

ที่เที่ยวจีน
Credit : TAW4 / shutterstock.com

สำหรับใครที่อยากชมความงดงามมหัศจรรย์ของธรรมชาติ แนะนำ ประตูสวรรค์ หรือ เขาเทียนเหมินซาน เป็นภูเขาที่มีความสูง 1,518.6 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถือเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจางเจียเจี้ย และเป็นหนึ่งในภูเขาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ความพิเศษของที่นี่อยู่ที่ช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างภูเขา ที่เกิดจากการระเบิดเองตามธรรมชาติ เมื่อแสงส่องลงมาจะดูคล้ายกับประตูขึ้นสู่สวรรค์ มีความสวยงามน่าอัศจรรย์มากๆ การไปเที่ยวที่นี่จะได้นั่งกระเช้าขึ้นเขาเป็นระยะทางยาวที่สุดในโลก และด้านบนยังมี ระเบียงกระจก เดินเลียบริมเขาท้าความสูงอีกด้วย


4. หุบเขาอวตาร (Tianzi Shan) – จางเจียเจี้ย

ที่เที่ยวจีน
Credit : aphotostory / shutterstock.com

ไปต่อกับอีกหนึ่ง ที่เที่ยวจีน ในเส้นทางจางเจียเจี้ย อย่าง หุบเขาอวตาร หรือ เขาเทียนจื่อซาน ชมความสวยงามแปลกตาของธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นแท่งภูเขาหินทรายมากกว่า 3,000 ยอด เรียงรายสลับซับซ้อนกัน แท่งภูเขาแต่ละแท่งมีความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 500 – 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สวยงามอลังการมากๆ จนทำให้ที่นี่กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างหุบเขาแพนดอร่าในภาพยนตร์เรื่อง อวตาร (Avatar) เป็นที่มาของชื่อหุบเขาอวตารนั่นเอง


5. เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland) – เซี่ยงไฮ้

ที่เที่ยวจีน
Credit : tang90246 / depositphotos.com

เอาใจสายกิจกรรม เที่ยวสวนสนุกกันบ้าง กับ เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกระดับโลกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย แฟนคลับดิสนีย์ต้องไม่พลาด มาพบกับตัวละครที่ชื่นชอบพร้อมกับเครื่องเล่นระดับโลกมันส์มากมาย ภายในแบ่งออกเป็นโซน 7 โซนในธีมต่างกัน ได้แก่ Gardens of Imagination, Tomorrowland, Adventure Isle, Fantasyland, Treasure Cove, Toy Story Land และ Zootopia ทั้งยังมีขบวนพาเหรด การแสดง และมุมถ่ายรูปให้ได้แชะภาพแบบรัวๆ เป็นที่เที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สนุกได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำเลย


6. เดอะบันด์ (The Bund) – เซี่ยงไฮ้

ที่เที่ยวจีน
Credit : chuyuss / shutterstock.com

ถ้าชอบความเมืองๆ หน่อย แนะนำ เดอะบันด์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หาดไว่ทาน (Waitan) จุดท่องเที่ยวชื่อดังของเซี่ยงไฮ้ ทั่วทั้งบริเวณจะเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตก ตั้งอยู่เรียบแม่น้ำความยาวกว่า 2 กิโลเมตร พอตกกลางคืนจะมีการเปิดไฟอย่างสว่างไสว สวยงามมากๆ ให้ฟีลเหมือนเดินเล่นอยู่ยุโรป แถมอีกฟากของแม่น้ำยังมองเห็น หอไข่มุกตะวันออก (The Oriental Pearl Tower) หอคอยทรงกลม ลักษณะคล้ายไข่มุก ที่มีความสูงถึง 468 เมตร และ เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ (Shanghai Tower) ตึกที่สูงที่สุดของจีน ที่มีการออกแบบอย่างโดดเด่นแปลกตา จนมีลักษณะบิดคล้ายเกลียว แถมไม่ไกลจากบริเวณนี้ยังสามารถไปเดินเล่น ช้อปปิ้ง หาของกินอร่อยๆ ที่ ถนนหนานจิงลู่ (Nanjing Road) ได้อีกด้วย


7. หมู่บ้านหิมะ China Snow Town – ฮาร์บิน

ที่เที่ยวจีน
Credit : Dashu Xinganling / shutterstock.com

ถ้าชอบความหนาวฉ่ำแบบสุดขั้วต้องไปที่ หมู่บ้านหิมะ China Snow Town หมู่บ้านเล็กๆ สุดน่ารักสไตล์จีนโบราณที่มีหิมะหนานุ่มปกคลุมอยู่ คล้ายกับมีสำลีเกาะบนหลังคา น่ารักสุดๆ ช่วงหน้าหนาวอุณหภูมิประมาณ -20 องศา อยู่ห่างจากเมืองฮาร์บินประมาณ 300 กิโลเมตร ที่นี่มีฤดูหนาวที่ยาวนาน ทำให้มีหิมะตกตั้งแต่เดือนตุลาคมยาวไปจนถึงเดือนเมษายน ช่วงที่มีหิมะตกหนัก หิมะอาจมีความหนาถึง 2 เมตร มาที่นี่แล้วแนะนำให้พักค้างคืนด้วย จะได้ชมบรรยากาศทั้งกลางวันและกลางคืน ที่จะมีการเปิดไฟสีสันสวยงาม ตอนเช้าตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น บอกเลยว่าฟินมาก!


8. ภูเขาสี่ดรุณี (Four Girls Mountain) – เฉิงตู

ที่เที่ยวจีน
Credit : Southtownboy / depositphotos.com

หนึ่งในที่เที่ยวฮิตมาแรงของเฉิงตูในช่วงนี้ก็คือ ภูเขาสี่ดรุณี หรืออีกชื่อเรียก ซื่อกูเหนียงซาน (Siguniangshan) ภูเขา 4 ลูกที่มีระดับความสูงแตกต่างกัน ตั้งเรียงรายเป็นระยะทางกว่า 3.5 กิโลเมตร มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ทำให้ดูคล้ายกับหญิงสาว 4 พี่น้องที่มีผ้าขาวคลุมศีรษะ สวยงามจนได้รับฉายาว่าเป็น “ภูเขาแอลป์แห่งแผ่นดินจีน” พื้นที่บริเวณนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ ลำธาร และดอกไม้นานาชนิด มีเส้นทางเดินป่าให้เลือกเดินกว่า 3 เส้นทาง ตามระดับความยากง่าย เป็น ที่เที่ยวจีน ที่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู


9. จิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou) – เฉิงตู

ที่เที่ยวจีน
Credit : Efired / shutterstock.com

พาไปชมธรรมชาติกันต่อกับ จิ่วจ้ายโกว ที่เที่ยวระดับ 5A ที่มีความอลังการราวกับ “สวรรค์บนดิน” ภายในอุทยานมีความอุดมสมบูรณ์มาก เต็มไปด้วยต้นไม้ ลำธาร น้ำตก ภูเขา และทะเลสาบสีสวยที่มีให้เที่ยวชมหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ทะเลสาบห้าสี (Five Flower Lake), ทะเลสาบยาว (Long Lake), ทะเลสาบแรด (Rhino Lake) เป็นต้น ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ฤดูที่นักท่องเที่ยวนิยมมากเป็นพิเศษคือ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในเดือนตุลาคม เพราะจะได้เห็นใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง สะท้อนกับน้ำในทะเลสาบสีเขียวมรกต เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน


10. เมืองเฉิงตู (Chengdu) เมืองแห่งแพนด้ายักษ์

ที่เที่ยวจีน
Credit : abolukbas / shutterstock.com

เฉิงตู เป็นบ้านเกิดของแพนด้า ทำให้บรรยากาศภายในเมืองเต็มไปด้วยแพนด้าสุดน่ารัก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน รถบัส ร้านขายของ รวมถึงแลนด์มาร์กต่างๆ ในเมืองที่จะมีการตกแต่งในธีมแพนด้า อย่างที่ IFS (International Finance Square) ห้างสรรพสินค้าที่รวมร้านค้า และสินค้าแบรนด์เนมไว้มากมาย พร้อมไฮไลต์เด็ดอย่างรูปปั้นแพนด้ายักษ์กำลังปีนตึก เป็นจุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน แต่ถ้าใครอยากชมแพนด้าตัวเป็นๆ อย่างใกล้ชิด ต้องไปที่ ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า (Giant Panda Breeding Research Base) ที่นี่มีแพนด้ากว่า 80 ตัว และมีพื้นที่เปิดโล่งให้แพนด้าได้เดินเล่น กินอาหารให้เราได้ชมอีกด้วย


11. ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) – ลี่เจียง

Credit : Sutipond Somnam / shutterstock.com

ไปสัมผัสหิมะกันที่ ภูเขาหิมะมังกรหยก สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ประกอบไปด้วยยอดเขากว่า 13 ยอด จุดที่สูงที่สุดมีความสูงถึง 5,596 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้สามารถเจอหิมะได้ตลอดทั้งปี การจะขึ้นไปด้านบนต้องนั่งกระเช้าขึ้นไป ระหว่างทางจะได้เห็นวิวทิวทัศน์จากมุมสูง เห็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ลักษณะคล้ายกับมังกรที่กำลังเลื้อยอยู่ เมื่อตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส ทำให้ภาพสวยงามมากขึ้นไปอีก ใครอยากเจอหิมะพร้อมชมวิวสวยๆ ต้องมาที่นี่เลย


12. สุสานกองทัพทหารดินเผาจิ๋นซีฮ่องเต้ (The Terracotta Warriors and Horses) – ซีอาน

Credit : QINQIE99 / shutterstock.com

เมืองซีอาน เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวจีน ที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญ มาเที่ยวที่นี่ต้องไปชมความยิ่งใหญ่ของ สุสานกองทัพทหารดินเผาจิ๋นซีฮ่องเต้ นับเป็นแหล่งโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก สร้างขึ้นโดยจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้เป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีนเมื่อ 2,200 ปีก่อน ที่นี่มีรูปปั้นนักรบกว่า 6,000 ตัวที่ถูกค้นพบ และยังมีรูปปั้นอีกจำนวนมากที่ยังคงถูกฝังอยู่


13. เมืองกุ้ยหลิน (Guilin)

Credit : aphotostory / shutterstock.com

กุ้ยหลิน เป็นเมืองที่สวยงามถึงขั้นได้รับการเรียกขานว่าเป็น เมืองสวรรค์บนพื้นพิภพ ทัศนียภาพที่งดงามของกุ้ยหลินดึงดูดนักท่องเที่ยวนับล้านคนให้มาเยือนที่นี่ในทุกปี ด้วยอากาศที่บริสุทธิ์และภูมิทัศน์ในชนบททำให้กุ้ยหลินเป็นสถานที่ที่เหมาะสุดๆ สำหรับการท่องเที่ยว และหลีกหนีมลพิษจากเมืองใหญ่ ที่เที่ยวยอดนิยมก็คือ ล่องเรือในแม่น้ำหลีเจียง แม่น้ำที่มีทัศนียภาพสวยที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ทั้งสองฝั่งเรียงรายด้วยภูเขาน้อยใหญ่รูปร่างแปลกตา หรือจะไปชม นาขั้นบันไดหลงจี๋ หรือ หลงเซิ่ง นาขั้นบันไดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ขดตัวเรียงกันอย่างสวยงามคล้ายมังกรเลื้อยรอบภูเขา ทำให้ได้รับฉายาว่า “สันหลังมังกร”


14. เมืองฉงชิ่ง (Chongqing)

Credit : Sean Pavone / shutterstock.com

ฉงชิ่ง เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันตกของจีน เต็มไปด้วยตึกสูงและความทันสมัย และยังมีท่าเรือยอดนิยมสำหรับการมาล่องเรือในแม่น้ำแยงซีอีกด้วย ความประทับใจครั้งแรกของผู้มาเยือนฉงชิ่งส่วนใหญ่ก็คือ “Mountain City” นั่นก็คืออาคารที่สร้างขึ้นนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขานั่นเอง ที่เที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของเมืองก็คือ ตลาดหงหยาต้ง (Hongyadong) แหล่งช้อปปิ้งที่ภายนอกเป็นอาคารสไตล์จีนโบราณขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยงามมาก


15. อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ (Three Natural Bridges) – ฉงชิ่ง

Credit : Kijja P44 / shutterstock.com

อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่หาชมยากคือ อุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ ที่มีภูมิประเทศแบบคาร์สต์ (Karst) เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลก บวกกับการกัดเซาะของลมและน้ำเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดหลุมยุบ 300 – 500 เมตร ระหว่างเส้นทางจะเจอกับ โรงเตี๊ยมโบราณเก่าแก่ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง เพื่อใช้เป็นจุดพักของนักเดินทาง ไฮไลต์ของที่นี่คือ สะพานธรรมชาติ 3 แห่งที่พาดอยู่เหนือโพรงหินขนาดใหญ่เหมือนประตูสวรรค์ ได้แก่ สะพานเทียนหลง (Tianlong), สะพานชิงหลง (Qinglong) และสะพานเฮยหลง (Heilong) ทิวทัศน์สวยงามถึงขนาดที่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Transformer 4 และ The Curse of the Golden Flower ก็เคยมาถ่ายทำที่นี่ด้วย


16. อุทยานปี้เผิงโกว (Bipenggou) – เสฉวน

Credit : Guitar photographer / shutterstock.com

อุทยานปี้เผิงโกว ที่เที่ยวจีน ระดับ 4A ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตเชียงอาป้า ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน สามารถเดินทางจากเมืองเฉิงตูได้ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องวิวภูเขาหิมะสุดอลังการ มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่ร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณ ทะเลสาบปันหยาง (Panyang Lake) ที่ใสและสงบนิ่งเหมือนกระจก สะท้อนเงาของภูเขาหิมะและป่าสนที่อยู่รอบๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกไม้บานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมอบอวลทั่วหุบเขา ส่วนฤดูใบไม้ร่วงก็มีวิวใบไม้เปลี่ยนสีแสนอบอุ่น ถือเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โด่งดังอีกแห่งหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็รับรองว่าได้ภาพสวยๆ กลับไปแน่นอน


17. ต๋ากู่ปิงชวน (Dagu Glacier National Park) – เสฉวน

Credit : i viewfinder / shutterstock.com

ต๋ากู่ปิงชวน คือธารน้ำแข็งที่เพิ่งถูกค้นพบผ่านดาวเทียมในปี ค.ศ.1992 ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน และสามารถเดินทางจากเมืองเฉิงตูได้เช่นกัน เป็นธารน้ำแข็งที่มีอายุน้อยที่สุดโลก ตั้งอยู่ในระดับความสูงที่ต่ำที่สุด และใกล้เมืองมากที่สุด ด้านบนมีทะเลสาบสวยๆ หลายแห่ง เช่น ทะเลสาบต๋ากู่ ทะเลสาบจินโหว และยังมีกระเช้าลอยฟ้าที่สูงที่สุดในโลก พาขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ความสูง 4,860 เมตร ภายใน 15 นาที จากมุมนี้จะมองเห็นทั้งธารน้ำแข็งและภูเขาหิมะ 3 ลูก ที่ได้ฉายาว่าสันหลังมังกร วิวสวยอลังเหมือนอยู่สวิตเซอร์แลนด์เลย


18. อุทยานแห่งชาติหวงหลง (Huanglong National Park) – เสฉวน

Credit : vulcannowhere / shutterstock.com

ถัดมาที่ อุทยานแห่งชาติหวงหลง หรือ หุบเขามังกรเหลือง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติระดับ 5A ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNECO ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูเขาหมินซาน มีภูมิทัศน์ที่หลากหลาย ทั้งหุบเขา ช่องแคบ ป่าไม้ น้ำตก ลำธาร วัดโบราณ และไฮไลต์อย่าง แอ่งน้ำห้าสี (Five – Color Ponds) ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุในน้ำที่ไหลผ่านหินปูนและตกตะกอนทับถมกัน จนกลายเป็นแอ่งเล็กๆ มากกว่า 3,000 บ่อ เรียงตัวลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้นๆ สามารถเดินเที่ยวชมตามเส้นทางธรรมชาติ หรือนั่งกระเช้าขึ้นไปก็ได้ เมื่อมองจากระยะไกล จะเหมือนเกล็ดของมังกรเลยค่ะ


19. อุทยานแห่งชาติย่าติง (Yading Nature Reserve) – เสฉวน

Credit : NoomisMe / shutterstock.com

อีกหนึ่ง ที่เที่ยวจีน ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเสฉวนคือ อุทยานแห่งชาติย่าติง ตั้งอยู่บริเวณชายขอบของพื้นที่ราบสูงชิงไห่ – ทิเบต (Qinghai – Tibet) ที่ความสูง 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้านในทำทางเดินไว้อย่างดี สะดวกสบายมาก มีเส้นทางท่องเที่ยวให้เลือกทั้งแบบทางระยะสั้น และระยะยาว และยังมีที่เที่ยวให้แวะชมหลายจุด เช่น ภูเขา 3 พระโพธิสัตว์ (The Three Holy Mountain) ภูเขาหิมะศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวนิเบตให้ความนับถือ, ทุ่งหญ้าลั่วหรง (Luorong Pasture) จุดชมภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่โอบล้มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และ วัดชงกู่ (Chonggu Temple) ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ใกล้ๆ วัดจะมีทะเลสาบไข่มุก (Pearl Lake) ที่ล้อมรอบด้วยป่าสนหนาทึบ มองเห็นยอดเขาหิมะด้วยค่ะ


20. พระใหญ่เล่อซาน (Leshan Giant Buddha) – เสฉวน

Credit : Weiming Xie / shutterstock.com

พระใหญ่เล่อซาน เป็นพระพุทธรูปหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูง 71 เมตร กว้างประมาณ 25 เมตร ประทับนั่งห้อยขาอยู่บริเวณหน้าผาหิน เพราะบริเวณนี้เป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน ทำให้น้ำเชี่ยวกรากมากและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงมีการก่อสร้างพระพุทธรูปขึ้นในปี ค.ศ. 713 สมัยราชวงศ์ถัง เพื่อปกป้องคุ้มครองชาวบ้าน แต่กว่าจะแล้วเสร็จก็ผ่านมาถึงปี ค.ศ. 803 รวมระยะเวลากว่า 90 ปีที่คนนับพันต้องทุ่มเททั้งแรงกายและสติปัญญาในการแกะสลักผลงานชิ้นนี้


21. หุบเขาเทวดา (Wangxian Valley) – เจียงซี

Credit : littlewormy / shutterstock.com

มา เที่ยวจีน กันต่อที่เมืองซ่างเหรา มณฑลเจียงซี ซึ่งเป็นที่ตั้งของ หุบเขาเทวดา หรือ วั้งเซียนกู่ หมู่บ้านโบราณอายุกว่า 2,000 ปีที่ห้อยอยู่ริมหน้าผาสูงชัน ปัจจุบันถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบเต็มตัว มีโฮมสเตย์ให้นอนเล่น เดินชมวิวริมแม่น้ำ ดื่มด่ำกับธรรมชาติสวยๆ พร้อมเสียงน้ำตกคลอเบาๆ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารมากมาย ในช่วงค่ำจะเปิดไฟสว่างไสวไปทั้งหมู่บ้าน สวยอลังการเหมือนหลุดเข้าไปในฉากหนังจีนย้อนยุคเลยค่ะ


22. หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley) – ยูนนาน

Credit : Adel Newman / shutterstock.com

หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน เป็น ที่เที่ยวจีน ระดับ 5A ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาทางทิศตะวันออกของภูเขาหิมะมังกรหยก เกิดจากหิมะบนภูเขาละลายไหลลงมารวมกันเป็นทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ ที่ใสสะอาดจนมองทะลุไปถึงพื้นด้านล่าง และเย็นจัดตลอดทั้งปี มีขั้นน้ำตกที่ลดหลั่นกันลงมาอย่างสวยงาม มีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะ โอบล้อมด้วยธรรมชาติวสีเขียวขจี ถือเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของที่นี่ เดินเล่นทั่วๆ จะได้ครบทั้งวิวภูเขาสีเขียวชอุ่ม ยอดเขาหิมะ และน้ำตกเลย


23. ช่องแคบเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge) – ยูนนาน

Credit : Janyaruk Pongpom / shutterstock.com

ช่องแคบเสือกระโจน เป็นหุบเขาลึกที่ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาหิมะ 2 ลูก คือ ภูเขาหิมะมังกรหยก และภูเขาหิมะฮาปา เกิดจากกัดเซาะของแม่น้ำจินซาที่ไหลเชี่ยวกลายเป็นช่องแคบยาว 15 กิโลเมตร ลึก 3,790 เมตร โดยช่วงที่แคบที่สุดมีความกว้างเพียง 30 เมตรเท่านั้น ตำนานเล่ากันว่า ในอดีตมีเสือตัวหนึ่งวิ่งหนีนายพราน และกระโดดข้ามแม่น้ำตรงจุดที่แคบที่สุดนี้จนรอดไปได้ จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเองค่ะ มุมไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ สะพานทางเดินเลียบแม่น้ำ เป็นจุดที่น้ำไหลมากระทบหินจนเกิดเสียงคำรามกึกก้อง และมีวิวภูเขาเป็นฉากหลัง ชวนตื่นตาตื่นใจสุดๆ


24. ทุ่งหญ้าคาลาจุ้น (Kalajun Grassland) – ซินเจียง

Credit : Jarung H / shutterstock.com

ใครมา เที่ยวจีน ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ซินเจียง ต้องไม่พลาด ทุ่งหญ้าคาลาจุ้น สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ที่มีทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา พร้อมวิวเทือกเขาเทียนชานที่ปกคลุมด้วยหิมะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนทุ่งหญ้าจะเป็นสีเขียวขจี มีดอกไม้ป่าหลากสีบานสะพรั่ง มองไปทางไหนก็สดชื่น พอเข้าฤดูใบไม้ร่วงก็จะกลายเป็นสีเหลืองทองอร่าม สวยงามไม่แพ้กัน นอกจากเดินเล่นถ่ายรูป ยังมีกิจกรรมสนุกๆ เช่น ขี่ม้าชมวิว ปั่นจักรยานอีกด้วย


25. คานาสือ (Kanas) – ซินเจียง

Credit : chuyuss / shutterstock.com

อุทยานคานาสือ เป็น ที่เที่ยวจีน ที่มีธรรมชาติงดงามและอุดมสมบูรณ์ จนถูกยกย่องให้เป็นแผ่นดินบริสุทธิ์แหล่งสุดท้ายของมวลมนุษย์ ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ภายในมีจุดท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น ทะเลสาบคานาสือ (Kanas Lake), คุ้งน้ำแสงจันทร์ (Moon Bay), คุ้งน้ำเทพยาดา (Fairy Bay) ซึ่งจะสวยเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนกันยายน เพราะป่าไม้รอบๆ จะผลัดใบเป็นสีเหลือง ตัดกับสีฟ้าของผืนน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นไปยัง ศาลาชมปลา (Guanyu Pavilion) เพื่อชมวิวมุมสูงได้ด้วย จากจุดนี้จะมองเห็นทะเลสาบแบบ 360 องศา โอบล้อมด้วยเทือกเขาอัลไตที่เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ สวยจนอยากนั่งชมวิวไปนานๆ เลย


26. หมู่บ้านเหอมู่ (Hemu Village) – ซินเจียง

Credit : kataleewan intarachote / shutterstock.com

หมู่บ้านเหอมู่ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ไม่ไกลจากอุทยานคานาสือ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 400 ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นชาวถู่หว่าที่ยังคงดำรงชีพแบบชนเผ่าเร่ร่อน อาศัยในบ้านไม้ที่สร้างแบบเรียบง่ายกลางทุ่งหญ้า ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จุดชมวิวไฮไลต์คือ สะพานเหอมู่ สะพานไม้เก่าแก่ที่เป็นทางผ่านไปสู่หมู่บ้าน จะมองเห็นทั้งวิวแม่น้ำ และป่าต้นเบิร์ชที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวบนยอดเขาที่มองเห็นวิวทั้งหมู่บ้านแบบพาโนรามาได้ด้วย ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้ชมบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี ส่วนในฤดูหนาวก็จะปกคลุมไปด้วยหิมะหนาๆ สวยงามมาก


27. ทะเลสาบไป๋ซาหู (Baisha Lake) – ซินเจียง

Credit : Sirio Carnevalino / shutterstock.com

ทะเลสาบไป๋ซาหู ตั้งอยู่ที่ความสูง 3,300 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล บนทางหลวงคาราโครัม (Karakoram Highway) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในถนนที่สวยที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 44 ตารางกิโลเมตรมีผืนน้ำสีฟ้าสดใสที่ส่องประกายระยิบระยับ ตัดกับสีขาวของเนินเขาด้านหลังที่ดูเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ แต่จริงๆ แล้วเป็นตะกอนทรายที่ถูกพัดพามาสะสมนานนับพันปี ทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตา บรรยากาศเงียบสงบ ลมเย็น เหมาะแก่การมาเดินเล่น และยังมีคาเฟ่พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ให้นั่งชมวิวด้วย


28. เมืองโบราณฟ่งหวง (Fenghuang) – หูหนาน

Credit : 4045 / shutterstock.com

เมืองโบราณฟ่งหวง เป็น ที่เที่ยวจีน ยอดฮิตบนเส้นทางจางเจียเจี้ย เป็นที่เที่ยวระดับ 5A มีอายุเก่าแก่ย้อนไปถึงสมัยราชวงศ์ชิง ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสวยตระหง่าน และมีแม่น้ำถัวเจียงไหลผ่าน ทำให้บรรยากาศร่มรื่นสวยงาม ถูกใจสายสโลว์ไลฟ์ที่อยากมาพักผ่อนชิลๆ กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือ การล่องเรือชมบ้านเรือนโบราณสองฝั่ง และแวะเที่ยวถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านขายอาหารมากมาย มีทั้งชานมไข่มุก หมูรมควัน เนื้อเสียบไม้ย่าง ไก่อบดิน เต้าหู้เหม็น ลูกอมขิง ฯลฯ ราคาไม่แพงด้วย


29. หมู่บ้านฟูหรงเจิ้น (Furong Zhen) – หูหนาน

Credit : 4045 / shutterstock.com

อีกหนึ่ง ที่เที่ยวจีน สวยๆ บนเส้นทางจางเจียเจี้ยคือ ฟูหรงเจิ้น หมู่บ้านโบราณที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรม “เตี้ยวเจี่ยวโหลว (Diaojiaolou)” หรืออาคารดั้งเดิมของชาวถู่เจีย ซึ่งปัจจุบันก็เหลือเพียงไม่กี่แห่งแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังตั้งอยู่เหนือม่านน้ำตกผืนใหญ่ที่มีความสูงถึง 60 เมตร กว้าง 40 เมตร ในช่วงเดือนเมษายน – ตุลาคม เป็นช่วงที่น้ำตกสวยที่สุด ปริมาณน้ำเยอะ ส่งเสียงดังสนั่น สาดกระเซ็นไปทั่ว และยังมีการเปิดไฟหลากสีในตอนกลางคืนด้วย จุดชมวิวยอดฮิตคือ สะพานถู่หวัง (Tuwang Bridge) จะมองเห็นน้ำตกและหมู่บ้านทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ


30. ทะเลสาบซีหู (Xi Hu West Lake) – หางโจว

Credit : rongyiquan / shutterstock.com

ทะเลสาบซีหู หรือ ทะเลสาบตะวันตก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO ในปี ค.ศ. 2011 มีขนาดใหญ่ถึง 6.5 ตารางกิโลเมตร ทัศนียภาพรอบๆ งดงามราวภาพวาด โอบล้อมด้วยขุนเขาสูงใหญ่ถึง 3 ด้าน และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมกว่า 100 แห่งกระจายอยู่ในบริเวณนี้ ไฮไลต์คือ สะพานสะบั้นรัก และ เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda) ที่ปรากฏในตำนานชื่อดังเรื่องนางพญางูขาว ด้านในจะมีภาพวาดโบราณและภาพแกะสลักไม้ที่เล่าเรื่องในฉากต่างๆ สามารถล่องเรือชมบรรยากาศได้  และชั้นบนสุดยังมีจุดชมวิวทะเลสาบ 360 องศาด้วย


31. ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว (Crescent Lake) – กานซู

Credit : liyuhan / shutterstock.com

มา เที่ยวจีน กันต่อที่ ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว เป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติ เพราะแหล่งโอเอซิสที่โค้งเว้าคล้ายพระจันทร์เสี้ยวแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทะเลทรายโกบี รายล้อมด้วยเนินทรายสีทอง ซึ่งมีเสียงลมพัดผ่านตลอดเวลา จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เนินทรายกระซิบ (Echoing-Sand Dune) แต่ทิศทางของลมจะพัดขึ้นไปด้านบนเสมอ จึงทำให้น้ำเป็นสีฟ้าใสไม่มีตะกอน บริเวณรอบๆ มีพืชพรรณสีเขียวชอุ่ม และเจดีย์แปดเหลี่ยมที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ฮั่น นอกจากเดินชมวิวเพลินๆ ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น ขี่อูฐ, ขับรถออฟโรด และเล่นเลื่อนสไลด์บนเนินทราย


32. ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย (Danxia Landform) – กานซู

Credit : Meiqianbao / shutterstock.com

ภูเขาสายรุ้งตันเซี๋ย เป็น ที่เที่ยวจีน ที่ตั้งอยู่ในเมืองจางเย่ มณฑลกานซู เกิดจากภูเขาหินสีแดงที่ถูกกัดเซาะจากลมและฝนเป็นเวลานานหลายล้านปี ทำให้ภูเขามีลวดลายเป็นริ้ว และมีสีสันหลากหลาย ทั้งเหลือง ส้ม ชมพู เขียว เทา ราวกับเป็นผลงานแกะสลักจากธรรมชาติ ปัจจุบันทางอุทยานทำทางเดินให้สะดวกสบาย และมีสะพานที่ชมวิวได้ 360 องศา ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือตอนที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน แสงที่สาดส่องลงมาจะทำให้ภูเขาเป็นสีส้มทองสวยงามมาก


33. นาขั้นบันไดหลงจี๋ (Longji Rice Terraces) – กุ้ยหลิน

Credit : Natali Glado / shutterstock.com

นาขั้นบันไดหลงจี๋ เป็นนาขั้นบันไดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,300 ปี เกิดจากภูมิปัญญาของมนุษย์ที่พยายามปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ จึงขุดที่ดินบนเชิงเขาเพื่อใช้สำหรับเพาะปลูกเป็นขั้นๆ และขยายอาณาเขตออกไปเรื่อยๆ จนมีความสูงมากกว่า 1,100 ขั้น ใครอยากชมวิวนาข้าวสีเขียวชอุ่ม ต้องมาช่วง เดือนมิถุนายน – กันยายน แต่ถ้าใครอยากได้วิวทุ่งนาสีทองอร่าม ต้องมาช่วงเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน บอกเลยว่าสวยงามทั้งสองช่วงเลย


34. ฉางหลง โอเชี่ยน คิงดอม (Chimelong Ocean Kingdom) – จูไห่

Credit : Guitar photographer / shutterstock.com

ฉางหลง โอเชี่ยน คิงดอม เป็นสวนสนุกและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1.32 ล้านตารางเมตร ภายในมีสัตว์น้ำหลากหลายสายพันธุ์ เช่น ฉลามวาฬ, กระเบนราหู, วาฬเบลูกา, นกเพนกวิน, หมีขาว โดยแบ่งพื้นที่เป็นโซนต่างๆ ถึง 8 โซน ได้แก่ Ocean Avenue, Dolphin Cove, Amazing Amazon, Ocean Beauty, Mount Walrus, Polar Horizon, Hero Island, Hengqin Ocean แต่ละโซนจะมีธีมการตกแต่ง โชว์การแสดง และเครื่องเล่นที่แตกต่างกัน หรือถ้าใครอยากเที่ยวที่นี่แบบครบๆ เขาก็มีโรงแรมให้บริการด้วย เด็กๆ ถูกใจ ผู้ใหญ่ก็ฟิน!

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ ที่เที่ยวจีน พร้อมกิจกรรมที่เราแนะนำด้านบน แต่ละที่สวยงามแถมยังน่ามหัศจรรย์สุดๆ เดี๋ยวนี้การเที่ยวเมืองจีนไม่ยากและสะดวกกว่าที่คิด เพราะไม่ต้องขอวีซ่า แถมยังมีโปรแกรม ทัวร์จีน ให้เลือกเที่ยวหลากหลายเส้นทาง ถ้ามีเวลาพอก็อยากจะลางานแล้วพาคุณพ่อคุณแม่กับครอบครัวไปเที่ยวกันให้ครบกันทุกเมืองไปเลย รับรองว่าสนุกแน่นอนค่ะ!


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์จีน ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
CustomerService@Mushroomtravel.com
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง